มช.โชว์งานวิจัย Spearhead ในมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565

เวทีวิจัย

วช.หนุน มช. ขับเคลื่อนงานวิจัยมุ่งเป้า  Spearhead  ด้านสังคม  พร้อมโชว์ผลงานเด่นในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565  เผยนวัตกรรมนักวิจัยไทย “เครื่องประเมินความสมดุลแรงกดน้ำหนักพร้อมการสื่อสารแบบไร้สาย” นอกจากช่วยบุคลากรทางการแพทย์วินิจฉัยความผิดปกติจากโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยเก็บข้อมูลไว้ในประเทศไทย

               ดร.วิภารัตน์   ดีอ่อง  ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า  กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม  โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้ให้ทุนสนับสนุนคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ภายใต้โครงการวิจัยแบบบูรณาการยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคม  ในโครงการพัฒนาระบบบริการพื่อการดูแลภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างครบวงจรปี 2 เพื่อการขับเคลื่อนงานวิจัยที่มีเป้าหมายหลักเพื่อพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพ ซึ่งโครงการได้มีพัฒนาระบบทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องทั้งภาวะฉุกเฉินที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุและการบาดเจ็บ และจากโรคภัยไข้เจ็บโดยเฉพาะกลุ่มโรคเรื้อรัง ซึ่งถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ

รศ.ดร.นิพนธ์  ธีรอำพน

               ทั้งนี้ ภายในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565  คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ได้มีการนำผลงานภายใต้โครงการ Spearhead  ดังกล่าวเข้าร่วมจัดแสดง โดยมีผลงานที่น่าสนใจ อย่างเช่น   “โครงการพัฒนาเครื่องประเมินความสมดุลแรงกดน้ำหนักพร้อมการสื่อสารแบบไร้สาย”  ผลงานของ “รองศาสตราจารย์ ดร.นิพนธ์  ธีรอำพน”  จากสถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่พัฒนาขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับบุคลากรทางแพทย์ ในการวัดแรงกด ณ  บริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการวินิจฉัยความผิดปกติที่เกิดจากโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการแขนขาอ่อนแรง เสียการทรงตัวจากหลอดเลือดในสมองมีภาวะตีบ อุดตัน หรือแตกทำให้เนื้อเยี่อในสมองถูกทำลาย การวินิจฉัยอย่างที่ถูกต้องและรวดเร็วจะเป็นประโยชน์ต่อการฟื้นฟูสภาพร่างกายของผู้ป่วยและลดภาวะพิการและทุพพลภาพได้

               สำหรับการวิจัยดังกล่าว ผู้วิจัยได้มีการพัฒนาเครื่องประเมินความสมดุลแรงกดน้ำหนักพร้อมการสื่อสารแบบไร้สาย   สำหรับโทรศัพท์มือถือระบบแอนดรอยด์ รวมถึงศึกษาความเป็นไปได้ในการนำเครื่องฯ ไปใช้  ก่อนที่จะผลิตและ ทดสอบความแม่นยำ เที่ยงตรง และประสิทธิภาพของตัวเครื่องฯ    และได้นำส่งให้ผู้เชี่ยวชาญทดสอบเพื่อประเมินความเป็นได้ในการใช้งานแล้ว 2 ทีมจำนวน 10 เครื่องคือ  ทีมนักกายภาพ โรงพยาบาลสันทราย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่  และทีมนักกายภาพ โรงพยาบาลสารภีบวรพัฒนา อ.สารภี จ.เชียงใหม่  ผลการทดสอบพบว่า อุปกรณ์สามารถวัด Weight balance ของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

               ส่วนจุดเด่นของงานวิจัยนี้ คือ เครื่องสามารถส่งข้อมูลเข้ามือถือระบบแอนดรอยด์ได้  ทำให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถนำข้อมูลการลงน้ำหนักเท้าแต่ละข้างของคนไข้ ไปใช้ประกอบการวินิจฉัยความผิดปกติ หรือใช้ประกอบการฟื้นฟูผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว 

                และที่สำคัญเครื่องดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นในประเทศโดยคนไทย จึงเป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีของประเทศไทย ข้อมูลซึ่งไม่สามารถประเมินค่าได้ทั้งหมดจะถูกจัดเก็บไว้ในประเทศ  สามารถพัฒนาต่อยอดหรือเสริมสมรรถนะของระบบได้เองตามความต้องการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

               ปัจจุบันผลงานวิจัยนี้มีการขยายผลเชิงพาณิชย์แล้วทั้งในระดับโรงพยาบาล และภาคครัวเรือน เพื่อเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ในการวินิจฉัย และฝึกกายภาพสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องปรับการลงน้ำหนักเท้าให้สมดุล

               สนใจ ชมได้ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ2565 ซึ่งจัดขึ้นระหว่าง  1-5 สิงหาคมนี้  ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์