มศว. – มรภ.บุรีรัมย์ คว้า Platinum Award ใน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565”

News Update

วช.จัดพิธีปิดงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 มศว. – มรภ.บุรีรัมย์ คว้ารางวัล Platinum Award  

               วันนี้ ( 5 สิงหาคม 2565) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดพิธีปิดงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 (Thailand Research Expo 2022)   โดยมี ดร.วิภารัตน์  ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีปิดงาน ฯ พร้อมมอบรางวัล Thailand Research Expo 2022 Award และมอบโล่แสดงความขอบคุณแก่หน่วยงานที่นำผลงานมาเข้าร่วมนำเสนอในงาน  ซึ่ง วช.และหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ ร่วมกันจัดขึ้นระหว่างวันที่1-5 สิงหาคม 2565 ที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร

               ในปีนี้ วช. ได้พิจารณาคัดเลือกผลงานที่มีกระบวนการนำเสนอที่มีความโดดเด่นในรูปแบบที่หลากหลายและสามารถเชื่อมโยงส่งต่องานวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การใช้ประโยชน์ต่อไปได้ โดยแบ่งผลงานออกเป็น 4 ประเภท และมีหน่วยงานที่ได้รับรางวัลประเภทต่าง ๆ ดังนี้

                1. Platinum Award  รับถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล รางวัลละ 120,000 บาท และเกียรติบัตร จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) จากผลงาน “นวัตกรรมผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกสายพันธุ์ ไทยเพื่อสุขภาพและเป็นอาหารฟังก์ชัน”  และมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จาก ผลงาน “การจัดการทุนทางวัฒนธรรมขับเคลื่อน เศรษฐกิจฐานรากพื้นที่เส้นทางการค้าโบราณ จังหวัดบุรีรัมย์”

               2. Gold Award  รับถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรี พร้อมเงินรางวัล รางวัลละ 70,000 บาท และเกียรติบัตร จำนวน 4 รางวัล ได้แก่  มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช จากผลงาน “ระบบ Vajira Telemedicine โดย application Vajira@Home” มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จากผลงาน “การสร้างมูลค่าเพิ่มบัวฉลองขวัญ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจไทย”  สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) จากผลงาน “ห้องแยกโรคความดันลบ” และมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จากผลงาน “เทคโนโลยีวัสดุแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ และการกักเก็บพลังงาน”

               3. Silver Award  รับถ้วยรางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมเงินรางวัล รางวัลละ 50,000 บาท และเกียรติบัตร จำนวน 6 รางวัล ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช จากผลงาน “มหัศจรรย์ “ป่าประ” เขาหลวง นครศรีธรรมราช”  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จากผลงาน “ระบบเซลล์เชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า แบบเคลื่อนที่จากแอลกอฮอล์” การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จากผลงาน “เครื่องป้อนสายพร้อมสารหล่อลื่นอัตโนมัติ (Cable Pusher with Auto Lubricant)”  มหาวิทยาลัยศิลปากร จากผลงาน “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนเชิงสร้างสรรค์บนฐาน ทุนทางวัฒนธรรมชุมชน” สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กผลงาน “การพัฒนารูปแบบโรงเรียน เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community : SLC) ในการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด Active Learning เพื่อพัฒนาสมรรถนะพลเมืองรุ่นใหม่” และโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) จากผลงาน “การวิเคราะห์ ผลกระทบของ COVID-19 ต่อระบบสาธารณสุขเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งในการปรับตัวของระบบบริการต่อการระบาด และความยั่งยืนของระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าในประเทศไทย”

               4. Bronze Award  รับถ้วยรางวัลจากปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมเงินรางวัล รางวัลละ 30,000 บาท และเกียรติบัตร จำนวน 4 รางวัล ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ จากผลงาน “Martech platformCoffee & amp; Tourism” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จากผลงาน “สารดับเพลิงประเภทผงเคมีแห้งสูตรเร่งประสิทธิภาพ จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร” และ “นวัตกรรมการผลิตสารออกฤทธิ์เชิงหน้าที่จากเซลล์ว่านเพชรหึง (ไฟโตไทเกอร์เซลล์)” มหาวิทยาลัยรังสิต จากผลงาน “ไข่ผงจากพืชไร้สารก่อภูมิแพ้”  และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จากผลงาน “การพัฒนาขีดความสามารถของเกษตรกร และผู้ประกอบการกาแฟอาราบิก้าในชุมชนจังหวัดเชียงรายตลอดห่วงโซ่อุปทาน”  

               และรับถ้วยรางวัลจากผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ พร้อมเงินรางวัล รางวัลละ 30,000 บาท และเกียรติบัตร จำนวน 4 รางวัล ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จากผลงาน “โครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยี มาสนับสนุนการให้บริการพลังงาน (ERC Sandbox)  สำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม จากผลงาน “โครงการเพิ่มการใช้มาตรการ พิเศษแทนการดำเนินคดีอาญาในเด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ระยะที่ 3” มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี จากผลงาน “ภูมิปัญญา ภูมิสารสนเทศและการบริหาร จัดการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยาสายเก่า”  กรมปศุสัตว์ จากผลงาน “การรักษาโรคลัมปีสกินด้วยการกระตุ้นภูมิคุ้มกันระบบ แลคโตเพอร์ออกซิเดส”  

               และ 5. รางวัลชมเชย เงินรางวัล รางวัลละ 10,000 บาท และเกียรติบัตร จำนวน 15 รางวัล ได้แก่ สถาบันพระบรมราชชนก จากผลงาน “การแปรรูปแป้งจากส่วนเหลือทิ้งทางการเกษตร ของกล้วยหิน ปริมาณแป้งที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์ และคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพ”  มหาวิทยาลัยพะเยา จากผลงาน “การผลิตโคเนื้อคุณภาพเพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร จังหวัดพะเยา”  กรมสุขภาพจิต จากผลงาน “การเสริมสร้างวัคซีนใจในชุมชนในสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019”  มหาวิทยาลัยราชมงคลสุวรรณภูมิ จากผลงาน “ศูนย์เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ (National Infrastructure Engineering Expertise Center)” สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จากผลงาน “การพัฒนาเครื่องจักรแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชน”  มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง จากผลงาน “การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์โดยรถไฟบนเส้นทางยุคสมัยแห่งล้านนาเพื่อเชื่อมโยงผลงานการพัฒนาท้องถิ่นและสังคม” มหาวิทยาลัยทักษิณ จากผลงาน “การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำในจังหวัดพัทลุง” กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จากผลงาน “โครงการศึกษาพัฒนารูปแบบยาเตรียมตำรับยาแผนไทย จำนวน 16 ตำรับที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม”  

               มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จากผลงาน “โรงงานต้นแบบไบโอรีไฟเนอรี่ทางชีวภาพ เพื่อการต่อยอดสำหรับอุตสาหกรรม BCG” มหาวิทยาลัยบูรพา จากผลงาน “KIN-YOO-DEE Platform for Holistic Continuity Healthcare and Medical Al Services” กรมทางหลวงจาก ผลงาน “การศึกษาเทคโนโลยีตรวจวัด ติดตาม เตือนภัย และบริหารจัดการความเสี่ยงภัยพิบัติดินสไลด์ในโครงข่ายทางหลวง”  กรมป่าไม้ จากผลงาน “โมเดลการฟื้นฟูป่า มิติสู่ความยั่งยืน”  สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) จากผลงาน “สารชีวภัณฑ์ วว. ยกระดับผลิตผลการเกษตร พัฒนาเชิงพื้นที่ด้วย วทน.”  มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา จากผลงาน “การพัฒนาเกมบนโมบายแอปพลิเคชันสำหรับการพัฒนาทักษะทางด้านภาษาและการสื่อสารในเด็กออทิสติก” และ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ จากผลงาน “นวัตกรรมการจัดการความรู้ภูมิปัญญาไหมถิ่นไทย เพื่อเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจฐานราก”

               ทั้งนี้ การจัดงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ที่หน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทุกหน่วยงาน และเครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัย หน่วยงานวิจัย (RUN) รวมถึงหน่วยงานบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรม (PMU) และหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันเผยแพร่องค์ความรู้และส่งต่อผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีคุณภาพ เพื่อขยายผลสู่การใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาประเทศไทยในมิติต่าง ๆ วช. เชื่อมั่นว่าพลังแห่งการขับเคลื่อนผลงานวิจัยด้วยกลไกการเผยแพร่และขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากการวิจัย โดยการนำเสนอผลงานวิจัยระดับประเทศจะมีส่วนผลักดันให้เกิดการขยายผลองค์ความรู้ต่อยอดงานวิจัย เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศได้ต่อไปในอนาคต