“ปทุมรักษา” นวัตกรรมกล่องเก็บชิ้นเนื้อ เพิ่มโอกาสรักษา ‘มะเร็งเต้านม’

Inno Market

                 “กล่องปทุมรักษา”  พัฒนาโดยนักวิจัยภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ผลงานชนะเลิศด้านสังคม จากโครงการ “เซเว่น อินโนเวชั่น อวอร์ดส์ 2020”  ที่มุ่งเฟ้นหาสินค้านวัตกรรมจากบริษัทเอสเอ็มอีหรือสตาร์ทอัพสัญชาติไทย ที่มีความคิดสร้างสรรค์และศักยภาพโดดเด่น สามารถต่อยอดให้เป็นสินค้านวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในระดับประเทศหรือระดับโลก อีกทั้งเพื่อเป็นการเปิดทางให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้ทดสอบสิ่งใหม่ๆ กับผู้บริโภคได้อย่างถูกต้อง ซึ่งสามารถนำไปสู่การยกระดับขีดความสามารถด้านนวัตกรรมของประเทศ ผ่านการส่งเสริมโดย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)

                 โดย “กล่องปทุมรักษา” เป็นนวัตกรรมเก็บรักษาชิ้นเนื้อผู้ป่วยมะเร็งเต้านม เพื่อให้เซลล์คงสภาพและสมบูรณ์ที่สุด ส่งผลให้การวินิจฉัยโรคได้แม่นยำและนำไปสู่การวางแผนรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

                 ผู้วิจัยบอกว่า  โจทย์ปัญหามาจากการจัดเก็บชิ้นเนื้อผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ซึ่งก่อนหน้านี้หลังผ่าตัดเต้านม เจ้าหน้าที่จะนำชิ้นเนื้อแช่ในฟอร์มาลีนเก็บไว้ในถุงพลาสติกก่อนจะนำส่งห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจวินิจฉัย ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเวลา รวมถึงการขนส่ง ทำให้ชิ้นเนื้อของผู้ป่วยบางครั้งไม่คงสภาพ ส่งผลต่อการตรวจวินิจฉัยโรค ก่อนจะมีการคิดค้นกล่องปทุมรักษาซึ่งเป็นนวัตกรรมเก็บรักษาชิ้นเนื้อผู้ป่วยมะเร็งเต้านม เพื่อให้เซลล์คงสภาพและสมบูรณ์ที่สุด ก่อนจะนำไปตรวจเชลล์ภายในชิ้นเนื้อ เพื่อหาเซลล์มะเร็งและส่งไปทำสไสด์เพื่อส่งต่อให้แพทย์พยาธิวิทยาวินิจฉัยเพื่อวางแผนการรักษาผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง

                 ลักษณะพิเศษของ “กล่องปทุมรักษา” คือด้านในจะมีการแบ่งช่องเพื่อให้น้ำยาแทรกซึมเข้าไปภายในชิ้นเนื้อเพื่อคงสภาพเซลล์ อีกทั้งมีชิปติดอยู่ข้างกล่องเพื่อบอกระยะเวลาของชิ้นเนื้อที่ตัดซึ่งต้องมีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง

                 ปัจจุบัน กล่องปทุมรักษาถูกนำไปใช้ในโรงพยาบาล 14 แห่งทั่วประเทศ พบว่าหลังการใช้กล่องปทุมรักษาทำให้การตรวจเซลล์มะเร็งเต้านมได้ผลอย่างแม่นยำ ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยาที่เหมาะสม มีอัตราการรอดชีวิตเพิ่มขึ้น โดยในอนาคตทีมนักวิจัยอยากให้มีการขยายผลและต่อยอดนวัตกรรม เพื่อให้การวินิจฉัยเชื้อมะเร็งเต้านมได้ผลแม่นยำและผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และจะมีประโยชน์ในแง่ของการเลือกวิธีการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ.