กรมศุลฯ จับมือ CAT ทำระบบกลางการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

i & Tech

กรมศุลกากร ลงนามสัญญาให้สิทธิบริการระบบกลางการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ กับ CAT รองรับการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และระหว่างประเทศ

              นายพชร  อนันตศิลป์  อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดตั้งระบบการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว National Single Window (NSW) ของประเทศ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2548 และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า ส่งออก และโลจิสติกส์ ให้ความร่วมมือเพื่อร่วมกันผลักดันให้ระบบ NSW จัดตั้งได้สำเร็จตามเป้าหมาย โดยระบบ NSW เป็นระบบอำนวยความสะดวกและบริการแบบอัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติควบคู่ไปกับการปฏิรูปกระบวนการและขั้นตอนการให้บริการ และการลดรูปเอกสาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการ เช่น ผู้ประกอบการนำเข้า ส่งออก และโลจิสติกส์ เป็นต้น สามารถทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์กับหน่วยงานภาครัฐ และภาคธุรกิจทางอิเล็กทรอนิกส์แบบปลอดภัยและไร้เอกสาร เช่น การจัดเตรียมข้อมูลเพียงครั้งเดียวในการขอใบอนุญาตและใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ และการปฏิบัติพิธีการศุลกากรใบขนสินค้าและชำระค่าภาษีอากรแบบอัตโนมัติ การใช้ข้อมูลร่วมกันกับทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลใบอนุญาตและใบรับรองระหว่างหน่วยงานภาครัฐภายในประเทศ และการเชื่อมโยงข้อมูลภาคธุรกิจระหว่างประเทศ

              โดยผู้ใช้บริการทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ สามารถติดตามผลในทุกๆ ขั้นตอนของการดำเนินงานนำเข้า ส่งออกและการอนุมัติต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์ http://www.thainsw.net/ และแอพพลิเคชั่น NSW e-Tracking on Mobile ได้ทุกวันและตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันมีหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 37 หน่วยงาน รวมถึงภาคเอกชนได้เชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ NSW อีกทั้งประเทศไทยได้มีการเชื่อมโยงข้อมูลกับประเทศสมาชิกอาเซียนผ่าน ASEAN Single Window (ASW) เรียบร้อยแล้ว

               ปัจจุบัน ระบบ National Single Window หรือระบบกลางการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว รองรับการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และระหว่างประเทศ ปีละกว่า 100 ล้านธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นปีละ 10 ล้านธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์   ซึ่งจากนี้ไป NSW จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลธุรกรรมใหม่ ในรูปแบบ B2G (Business-to-Government) และการเชื่อมโยงข้อมูลกับต่างประเทศจะเพิ่มมากขึ้น และเพื่อรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ NSW ที่เพิ่มมากขึ้น ครอบคลุมทั่วทุกภาคส่วนทั้งระหว่างภาครัฐกับภาครัฐ (G2G) ภาคเอกชนกับภาครัฐ (B2G) และระหว่างภาคเอกชนกับภาคเอกชน (B2B) รวมทั้งเพื่อให้สามารถเชื่อมโยงเข้ากับระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องในมิติอื่น อาทิ ด้านการค้าขาย (e-Trade) ด้านการขนส่ง (e-Freight) และด้านการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) เป็นต้น

              ทั้งนี้จึงมอบหมายให้ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT เป็นผู้ให้บริการระบบ National Single Window (NSW Operator) เนื่องจากมีความพร้อมทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม  และมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมทั้งในประเทศและต่างประเทศ  รวมถึงมีประสบการณ์ในการพัฒนาระบบการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสารมาเป็นระยะเวลานาน

              ด้านพันเอกสรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ CAT เปิดเผยว่า ระบบ NSW เป็นระบบการบริการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจ (G2G,G2B และ B2B) สำหรับการนำเข้า ส่งออกและโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นระบบบริการแบบอัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติควบคู่ไปกับการปฏิรูปกระบวนการและขั้นตอนการให้บริการและการลดรูปเอกสาร โดยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการสามารถทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์กับหน่วยงานภาครัฐ และภาคธุรกิจทางอิเล็กทรอนิกส์แบบปลอดภัยและไร้เอกสาร รวมถึงการใช้ข้อมูลร่วมกันของทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเชื่อมโยงข้อมูลใบอนุญาตและใบรับรองระหว่างหน่วยงานภาครัฐภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยผู้ใช้บริการสามารถติดตามผลในทุก ๆ ขั้นตอนของการดำเนินงานผ่านทางอินเทอร์เน็ต (e-Tracking) ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง

               “ระบบ NSW นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ รวมถึงช่วยสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ดังนั้น CAT ในฐานะผู้ให้บริการระบบ NSW จึงมีความตั้งใจและพร้อมที่จะนำบริการด้านดิจิทัลและสื่อสารโทรคมนาคมที่มีอยู่มาให้บริการ NSW อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้กรมศุลกากรในฐานะที่เป็นหน่วยงานอำนวยความสะดวกทางการค้าและส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ของประเทศสามารถพัฒนาการให้บริการให้เกิดประโยชน์ผู้ประกอบการเพิ่มมากขึ้นและส่งผลดีต่อประเทศโดยรวมในที่สุด”