เทศบาลนครแหลมฉบังจับมือ UTEเดินหน้า Smart City

News Update

เทศบาลนครแหลมฉบัง ผนึก UTE  เดินหน้าโครงการ Smart City วางระบบแพลตฟอร์มบริหารจัดการเมือง “MaxiCity Platform”  และติดตั้งเสาอัจฉริยะ “Lucky Pole”

              นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง  เทศบาลนครแหลมฉบัง  จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า  เทศบาลนครแหลมฉบัง มีแผนเตรียมพัฒนาพื้นที่ในเขตเทศบาลนครแหลมฉบังให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ต้นแบบของ Smart City   โดยการผสานข้อมูลดิจิทัลเข้ากับชุมชม ปัจจุบันเทศบาลนครแหลมฉบัง เป็นเมืองท่าพาณิชย์หลักของประเทศไทย อีกทั้ง เป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สำคัญ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการ ในด้าน เศรษฐกิจ  ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เทศบาลนครแหลมฉบังเป็นเมืองเศรษฐกิจที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน

              ล่าสุดเทศบาลนครแหลมฉบัง ได้จัดทำข้อตกลงบันทึกความเข้าใจ (MOU)  โครงการ Smart City  กับ บริษัท ยูไนเต็ด เทคโนโลยี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (UTE)  เพื่อดำเนินการโครงการวางโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัล และการสื่อสารโทรคมนาคม โดยติดตั้งเสาอัจฉริยะ “ Lucky Pole”  และ ระบบแพลตฟอร์มบริหารจัดการเมือง  “MaxiCity”  เนื่องจาก MaxiCity Platform  จะสามารถบริหารจัดการเสาอัจฉริยะ Lucky Pole แบบรวมศูนย์ เพื่อให้เทศบาลนครแหลมฉบัง สามารถตัดสินใจบริหารจัดการข้อมูล เพื่อพัฒนาเมืองได้ดียิ่งขึ้น 

               “ เทศบาล หน่วยงานในพื้นที่ร่วมกับประชาชน เป็นส่วนสำคัญที่จะวางแผน   ผลักดันพัฒนาเมืองไปสู่ Smart City  เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ความปลอดภัย ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมเมือง ตลอดจนส่งเสริมสังคม  เศรษฐกิจในเมือง ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้  ซึ่งนำร่องจากเสาอัจฉริยะ Lucky Pole ขยายผลไปสู่การนำนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ มาต่อยอดในอนาคต ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ของประชาชนในพื้นที่ยิ่งขึ้น”   

              ด้านนายธนาพันธ์   ตันติสัตยกุล  กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท ยูไนเต็ด เทคโนโลยี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (UTE) ภายใต้กลุ่มบริษัทเบญจจินดา กล่าวว่า UTE มีเป้าหมายในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง  Smart City  ด้วยแนวทางการขับเคลื่อนนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาใช้เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อเมืองและประชาชนในพื้นที่ โดยมีรูปแบบการดำเนินการร่วมกับพันธมิตรด้านกลยุทธ์  (Strategic  Partner)  ซึ่ง  UTE จัดกลุ่มเป็น 2 ส่วน คือกลุ่มแรก  พันธมิตรเจ้าของที่ดินหรือเจ้าของพื้นที่ ( Landlord Partner )  เช่น เทศบาลนคร หรือพื้นที่ของเอกชน   กลุ่มสอง พันธมิตรทางธุรกิจ  (Business Partner) เช่น โมบาย โอเปอเรเตอร์  ทั้งนี้ภายในปี 2564  UTE  มีเป้าหมายการติดตั้งเสาอัจฉริยะ Lucky Pole  ไว้ไม่น้อยกว่า 4 เมือง ได้แก่ แหลมฉบัง  ระยอง นครสวรรค์ ภูเก็ต

              “ UTE  ได้สร้างนวัตกรรมดีไซน์  เสาอัจฉริยะ Lucky Pole  จากผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลเทคโนโลยี ด้วยจุดเด่นระบบฟังก์ชั่นการทำงานที่ยืดหยุ่นตามความต้องการของเมืองแต่ละแห่ง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการใช้งานของเมือง และประชาชน”   

              นายชัชวาลย์  สุภัคธนาการ  ผู้อำนวยการฝ่าย Digital Solution & Development  บริษัท ยูไนเต็ด เทคโนโลยี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (UTE)   กล่าวว่า การใช้งาน เสาอัจฉริยะ  Lucky Pole และ แพลตฟอร์มบริหารจัดการเมือง  MaxiCity  ที่เทศบาลนครแหลมฉบัง จะมุ่งเน้น ในเรื่องการสื่อสารกับประชาชนในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งจะทำให้การเข้าถึงข้อมูลมีประสิทธิภาพ   และในด้านความปลอดภัย จะมีศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและเฝ้าระวังผ่านเสาอัจฉริยะ Lucky Pole ตลอด 24 ชั่วโมง  ทั้งนี้ยังสามารถแจ้งเตือนสภาพอากาศให้กับประชาชนในพื้นที่รับทราบอย่างทันท่วงที และมุ่งเน้นให้นำข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์  IoTs  ที่ติดตั้งบนเสาอัจฉริยะ Lucky Pole มาใช้ในการแก้ปัญหาและวางแผนพัฒนาเมืองเป็นไปได้อย่างถูกต้อง  เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับเมืองและประชาชน 

              สำหรับเทคโนโลยีที่ติดตั้งให้กับเทศบาลนครแหลมฉบังนี้ ได้รับการรับรองมาตรฐานถึง 2 รางวัล  โดยเสาอัจฉริยะ Lucky Pole ได้รับรางวัล Product Innovation Awards 2021 ประเภทเทคโนโลยีกลุ่มอุปกรณ์สื่อสาร และโทรคมนาคมอัจฉริยะ  และ ระบบแพลตฟอร์มที่ให้บริการ Maxitask ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักของ MaxiCity ได้รับรางวัล 2019 Asia-Pacific Telecoms Digital Services Platform Growth Excellence Leadership Award” จาก Frost & Sullivan องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก