นักวิจัยไทยพร้อมต่อยอดข้อมูลผลึกโปรตีนอวกาศพัฒนายาต้านมาลาเรีย

News Update

จิสด้าจับมือสวทช. จัดพิธีรับมอบข้อมูลผลึกโปรตีนในอวกาศจากแจ็กซา ผลงานวิจัยจากไบโอเทคที่นำไปทดลองบนสถานีอวกาศนานาชาติ ISS จนได้ผลึกโปรตีนอวกาศที่สมบูรณ์ พร้อมต่อยอดพัฒนายาต้านโรคมาลาเรียต่อไป

ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสด้า เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยจิสด้า ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ องค์กรสำรวจอวกาศแห่งญี่ปุ่น หรือ แจ็กซา (Japan Aerospace Exploration Agency: JAXA) จัดพิธีรับมอบข้อมูลการกระเจิงของแสงจากผลการฉายแสงซินโครตรอนกับโครงสร้างผลึกโปรตีนอวกาศ จากผลงานวิจัยหัวข้อ “การทดลองปลูกผลึกโปรตีนในอวกาศเพื่อพัฒนายาต้านโรคมาลาเรีย” ของ ดร.ชัยรัตน์ อุทัยพิบูลย์ นักวิจัยอาวุโส ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช.

ทั้งนี้ผลงานดังกล่าว เป็นงานวิจัยไทย งานแรก ที่จิสด้าได้ผลักดันให้ไปทดลองบนสถานีอวกาศนานาชาติ ISS ได้สำเร็จ โดย JAXA ได้ดำเนินการส่งงานวิจัยของไทยไปทดลองให้บนสถานีอวกาศ เป็นจำนวนทั้งหมด 2 ครั้งด้วยกัน จนได้ผลผลึกโปรตีนอวกาศที่สมบูรณ์และมีคุณสมบัติพร้อมสำหรับการวิเคราะห์เพื่อพัฒนายาต้านโรคมาลาเรียต่อไป

ดร.ชัยรัตน์ อุทัยพิบูลย์ นักวิจัยอาวุโส จากไบโอเทค- สวทช. กล่าวว่า งานต่อจากนี้จะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลการกระเจิงของแสงเพื่อศึกษาโครงสร้างโปรตีนซึ่งเป็นเป้าหมายยาต้านมาลาเรียนี้ เพื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลโครงสร้างโปรตีนที่ได้จากการปลูกผลึกบนโลก และหวังว่าจะได้ข้อมูลสำคัญเพื่อช่วยในการออกแบบยาต้านมาลาเรียชนิดใหม่ต่อไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยโรคมาลาเรียทั่วโลก

ด้าน นายโอโนะ อิสึชิ (Mr. Ono Atsushi) ผู้อำนวยการ JAXA Bangkok Office กล่าวว่า ประเทศไทยมีงานวิจัยที่มีคุณค่าจำนวนมาก งานวิจัยการปลูกผลึกโปรตีนในอวกาศถือเป็นอีก 1 งานวิจัยที่มีคุณค่าและความสำคัญ ซึ่งจะเกิดประโยชน์อย่างมหาศาลต่อวงการสาธารณสุขโลก JAXA ในฐานะที่มีผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือ ตลอดจนห้องปฏิบัติการทดลองในอวกาศ มีความพร้อมและยินดีที่จะให้ความร่วมมือ ตลอดจนสนับสนุนประเทศไทยในการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมด้านอวกาศที่มีประโยชน์และมีคุณค่าต่อไป