EVAT จับมือพันธมิตรเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า 12 หน่วยเชื่อมต่อการใช้งานร่วมกันของแต่ละเครือข่ายสำหรับ EV

New Energy

สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยจับมือพันธมิตรเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าอีก 12 หน่วยงาน เพื่อการเชื่อมต่อการใช้งานร่วมกันของแต่ละเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ปลั๊กอิน-ไฮบริด (PHEV) และยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) พร้อมเปิดตัวแผนที่  EV charging station map  ที่รวมทุกพิกัดของทุกสถานีอัดประจุไฟฟ้าในกลุ่ม Charging Consortium บนเว็บไซต์สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เป็นครั้งแรก

             เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย นำโดย ดร. มัณฑนา รังสิโยภาส เลขาธิการสมาคมยานยนต์ไฟฟ้า (EVAT) ปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวแทนนายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย พร้อมด้วยเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ อันได้แก่

  1. คุณณิศรา ธัมมะปาละ วิศวกรระดับ 11 ปฏิบัติงาน Project Management Office การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  
  2. คุณจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการธุรกิจ การไฟฟ้านครหลวง
  3. คุณมงคล ตรีกิจจานนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการธุรกิจและการตลาด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
  4. คุณโทรณ หงศ์ลดารมภ์ Head of EV Charger Business บริษัทอรุณพลัสจำกัด
  5. คุณราชสุดา รังสิยากูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้อำนวยการโครงการ Orion บริษัท ปตท. นํ้ามัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)
  6. คุณฉันทกร เดวิชญ์ กริดวิชญยาการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท กริดวิซ (ประเทศไทย) จํากัด
  7. คุณพูนพัฒน์ โลหารชุน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีโวลท์ เทคโนโลยี จํากัด
  8. คุณพีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จแมเนจเม้นท์ จำกัด
  9. คุณวรพจน์ รื่นเริงวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โชเซ่น เทคโนโลยี จํากัด
  10. คุณอมร ทรัพย์ทวีกุล กรรมการผู้มีอำนาจ บริษัท พลังงานมหานคร จํากัด
  11. คุณกฤษฏิ์ วิชัยวัฒนาพาณิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฮ้อปคาร์ จำกัด
  12. คุณครรชิต ไชยสุโพธิ์ รองประธาน ฝ่ายกิจการองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด

            ซึ่งทั้ง 12 องค์กรข้างต้นได้ร่วมกันลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน ณ ​ที่ทำการ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย อาคารเคเอกซ์ (KX Knowledge Xchange) เรื่อง การเชื่อมต่อการใช้งานของแต่ละเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าเเบบปลั๊กอิน-ไฮบริด (PHEV) และยานยนต์ไฟฟ้าเเบบแบตเตอรี่ (BEV) ในประเทศไทย

             โดยสมาคมยานยนต์ไฟฟ้า และเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ มีความประสงค์จะเข้าทำบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน เพื่อดำเนินการและประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าและแสวงหา แนวทางความร่วมมืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงได้ตกลงทำบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ร่วมกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันพัฒนาการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า โดยมุ่งเน้นประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และเพื่อให้สามารถใช้บริการอัดประจุไฟฟ้าได้ในทุกเครือข่ายฯ และมีระบบการ ให้บริการที่เป็นมาตรฐาน เพื่อร่วมกันแสวงหาแนวทางในความร่วมมือเพื่อให้ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า สามารถใช้เครื่องมือ เช่น บัตร หรือ QR code โปรแกรม หรืออุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อให้สามารถอัดประจุไฟฟ้าได้ข้ามเครือข่ายๆ โดยไม่ จํากัดเฉพาะของเครือข่าย ในเครือข่ายหนึ่งเท่านั้น เพื่อร่วมกันพัฒนาการเชื่อมโยง ระบบการเก็บค่าบริการจากผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่ใช้บริการต่าง เครือข่ายๆ ที่สามารถบริหารจัดการทั้งรายรับและรายจ่ายให้กับเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจได้อย่างเป็นธรรม

             นอกจากนี้ภายในงานกลุ่ม Charging Consortium ของสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) ยังได้เปิดตัว EV charging station map กลาง ที่รวบรวมโลเคชั่น ของทุกสถานีอัดประจุไฟฟ้าในกลุ่ม Charging Consortium บนเว็บไซต์ http://www.evat.or.th

             โดย ดร. มัณฑนา รังสิโยภาส เลขาธิการ EVAT กล่าวว่า “ กลุ่ม Charging Consortium ภายใต้สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยได้ดำเนินการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่เป็นผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ ซึ่งจุดประสงค์ของการจัดตั้งกลุ่มดังกล่าวนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย อีกทั้งในปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่  เราเริ่มเห็นการเติบโตของจำนวนผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าอย่าง สถานีอัดประจุไฟ้ฟ้าก็เติบโตไปในทิศทางเดียวกันด้วย นอกจากนี้ ไฮไลท์สำคัญของการลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ เราได้มีการเปิดตัว เว็บไซต์กลางที่รวบรวบ สถานีอัดประจุไฟฟ้าจากทุกค่าย ที่ตั้งอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทย ไว้ในเว็บไซต์เดียว  ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าของผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ผ่านเว็บไซต์สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ทำให้ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าสามารถวางแผนการเดินทางได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น”

             ทั้งนี้บันทึกข้อตกลงร่วมกันฉบับดังกล่าวนี้ มีผลบังคับใช้นับจากวันที่ลงนามกับทุกฝ่ายเป็นระยะ เวลา 2 ปี

                      ในการประชุมคณะนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565 รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คุณสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ในฐานะประธานคณะฯ ได้มอบหมายให้  5 หน่วยงาน อันได้เเก่  การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) การไฟฟ้านครหลวง (MEA) บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เเละบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จํากัด (มหาชน) (EA) พัฒนาและบริหารจัดการแพลตฟอร์มกลางของสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้สถานีอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งจะมีการนำร่องในการเชื่อมโยงข้อมูลสถานีอัดประจุไฟฟ้า กลุ่มแรก ในเดือนสิงหาคม 2565 โดยมีรูปแบบเป็นไปตามแนวทางที่กลุ่ม EV Charging Consortium ทำการศึกษาและพัฒนาก่อนหน้านี้ และจะมีการต่อยอดเชื่อมโยงไปยังหน่วยงานต่างๆ ของกลุ่มต่อไปในอนาคต