นาโนเทค สวทช. ลงพื้นที่โครงการนำร่องบริหารจัดการน้ำ ลำปาง

ออนไซต์-ในสนาม

           เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ลงพื้นที่ ณ ชุมชนบ้านสัก ต.บ้านเอื้อม อ.เมือง จ.ลำปางซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องการบูรณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) เพื่อการบริหารจัดการน้ำ ทั้งน้ำดื่ม น้ำใช้ และน้ำเพื่อการเกษตร โดยแก้ปัญหาด้วยการประยุกต์ใช้สิ่งรอบตัว อาทิ ไส้กรองน้ำจากเซรามิค ของเหลือใช้ในชุมชน หรือเทคโนโลยีการตรวจวัดคุณภาพน้ำอย่างง่ายที่อาศัยพืชใกล้ตัวอย่างต้นกระถิน โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง พันธมิตรร่วมโครงการ

            ดร.วรรณี ฉินศิริกุล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สวทช. กล่าวว่า   นาโนเทคได้วิจัยและพัฒนาเรื่องน้ำมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำ การบริหารจัดการและการปรับปรุงคุณภาพน้ำ รวมถึงการออกแบบเทคโนโลยีด้านการกรอง/บำบัดต่าง ๆ  ซึ่งมีสิ่งที่สำคัญประการหนึ่งคือ การจับมือกับพันธมิตรเพื่อบูรณาการร่วมมือในการแก้ปัญหาด้านน้ำ ตอบโจทย์ที่ท้าทายของประเทศ

            “การลงพื้นที่ชุมชนบ้านสัก จังหวัดลำปางในครั้งนี้ เป็นการพัฒนางานวิจัยเชิงพื้นที่ ซึ่งมุ่งเน้นการบูรณาการความร่วมมือของสถาบันการศึกษาในท้องถิ่น ร่วมกับชุมชนในการแก้ปัญหาน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภคเพื่อนำสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ” ดร.วรรณีกล่าว

           ด้าน ดร.ณัฏฐพร พิมพะ หัวหน้าทีมวิจัยนาโนเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม กลุ่มวิจัยวัสดุผสมและการเคลือบนาโน นาโนเทค สวทช. กล่าวว่า โครงการองค์ความรู้สู่ชุมชน: นวัตกรรมกรองน้ำด้วยนาโนเทคโนโลยีเพื่อการพึ่งตนเองของชุมชนบ้านสัก ต.บ้านเอื้อม อ.เมืองลำปาง จังหวัดลำปาง ซึ่งเกิดจากการลงพื้นที่ชุมชนบ้านสัก ที่ลำปางเมื่อปี 2563 เป็นการบูรณาการทั้งองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม รวมถึงความร่วมมือของพันธมิตรในพื้นที่ เพื่อบริหารจัดการน้ำองค์รวม ทั้งน้ำดื่ม น้ำใช้ และน้ำเพื่อการเกษตร แก้ปัญหาเฉพาะในท้องถิ่น โดยได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

           จุดมุ่งหมายของโครงการนี้คือ การถ่ายทอดองค์ความรู้การวิจัยและพัฒนาวัสดุกรองน้ำอย่างง่าย ต้นทุนต่ำจากวัสดุและภูมิปัญญาในชุมชน รวมทั้งพัฒนาระบบกรองน้ำ วิธีการบำรุงรักษาระบบกรอง และวิธีการตรวจวัดคุณภาพอย่างง่าย ซึ่งเป็นการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมและส่งเสริมให้ชุมชนพึ่งตนเองตามพระราชดำริ  มีการสร้าง “นักพัฒนาคุณภาพน้ำ” ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้นักเรียน และผู้ที่สนใจ  รวมถึงสร้างความตระหนักถึงผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาวจากการอุปโภคและบริโภคน้ำที่มีการปนเปื้อน รวมถึงอนุรักษ์แหล่งน้ำบาดาลเพื่อรองรับการอุปโภค-บริโภคอย่างยั่งยืนในระยะยาว ทั้งนี้ได้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้การบริหารจัดน้ำเพื่อการเกษตร การจัดการแปลง และเกษตรอินทรีย์โดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และสารชีวภัณฑ์ เพื่อส่งเสริมการพึ่งพาตนเองในชุมชน รวมทั้งการลดการใช้สารเคมีที่ป้องกันปัญหาการปนเปื้อนของสารเคมีทางการเกษตรในสิ่งแวดล้อมทั้งน้ำและดิน

            “ทีมวิจัยจากนาโนเทค ได้ร่วมมือกับพันธมิตรในพื้นที่อย่างมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง และชุมชนบ้านสัก ริเริ่มการผสาน 4 โครงการที่นำมาขยายผลใช้งานในพื้นที่ ได้แก่ เทคโนโลยีการพัฒนาวัสดุกรองน้ำจากวัสดุในท้องถิ่น   โดยระบบกรองน้ำดื่มสำหรับครัวเรือนอย่างง่าย จะเป็นการใช้ของที่มีอยู่ในชุมชน ไม่ว่าจะเป็น เศษเซรามิคเหลือทิ้ง ซึ่งเป็นของเหลือจากอุตสาหกรรมในพื้นที่ นำมาผสมกับถ่านชีวภาพ (Biochar)  ออกแบบให้เป็นไส้กรองอย่างง่าย ต้นทุนต่ำ สำหรับใช้ในครัวเรือน”

            ผศ.ดร.ณรงค์ คชภักดี รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง กล่าวว่า จากการได้ลงพื้นที่นำร่องเพื่อออกแบบและพัฒนาการทำชุดกรองน้ำดื่มครัวเรือนอย่างง่าย โดยออกแบบให้ใช้วัสดุกรองน้ำที่ขายทั่วไป แต่ประยุกต์ดัดแปลงบางส่วนให้ต้นทุนต่ำ และง่ายต่อการใช้งาน  คนในชุมชนสามารถทำใช้เองได้  และเมื่อมีความร่วมมือกับนาโนเทค สวทช.  จึงได้ต่อยอดพัฒนาเป็นวัสดุกรองที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อได้ โดยทดลองใช้กับระบบกรองในชุมชนบ้านสัก  พบว่า วัสดุเคลือบนาโนนั้นสามารถฆ่าเชื้อได้ดี โดยไม่ต้องใช้หลอดยูวี ซึ่งเป็นแนวทางที่มีประโยชน์มาก หากสามารถผลิตได้จำนวนมากและมีต้นทุนที่ต่ำลง จะช่วยลดการทิ้งเศษเซรามิคและนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกด้วย

           นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีการตรวจวัดคุณภาพน้ำอย่างง่าย  เช่น   การตรวจวัดคุณภาพน้ำด้วยต้นกระถินซึ่งเป็นพืชที่หาได้ง่ายในชุมชน  โดยนำยอดกระถินซึ่งมีสารมิโมซีน (Mimosine) มาทำเป็นน้ำยาเคมีตรวจวัดปริมาณสารเหล็กในน้ำประปาชุมชน   เนื่องจากมีการค้นพบและตีพิมพ์ใน วารสาร MicroChem (Q1) ว่า สารมิโมซีน เป็นสารสำคัญในการคีเลตกับไอออนของเหล็ก และเปลี่ยนเป็นสีม่วงจนถึงแดงตามปริมาณเหล็กที่ตรวจวัดได้ จึงกลายเป็นการตรวจวัดคุณภาพน้ำอย่างง่ายที่คนในชุมชนสามารถทำได้

            อย่างไรก็ดี ยังมีเทคโนโลยีการการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร การจัดการแปลงและเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจะสนับสนุนกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ลดใช้สารเคมีทางการเกษตร อนุรักษ์ไม่ให้มีสารเคมีปนเปื้อนในแหล่งน้ำบาดาล พร้อมอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนใช้น้ำเพื่อเกษตรกรรมให้เพียงพอในช่วงหน้าแล้ง

           ขณะที่นางจันทร์วีชา เนาประดิษฐ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบ้านสัก กล่าวว่า โรงเรียนวัดบ้านสัก เป็นพื้นที่นำร่องของโครงการ โดยเริ่มจากปัญหาของน้ำดื่มน้ำใช้ที่มาจากบ่อน้ำบาดาล บวกกับระบบกรองที่ใช้มานาน ทำให้เกิดตะกอนในท่อส่งน้ำ ส่งผลให้แรงดันน้ำไม่พอ น้ำไหลไม่แรง และมีผลกับคุณภาพน้ำดื่มของนักเรียน เกิดเป็นค่าใช้จ่ายใหม่ที่ต้องจัดซื้อน้ำดื่มแบบบรรจุขวดให้นักเรียนเพิ่ม

           “ทางทีมวิจัยเข้ามาช่วยตรวจสอบระบบกรองใหม่ โดยปรับเปลี่ยน และประยุกต์ไส้กรอง โดยเติมเซรามิค สารกรอง และเพิ่มหลอดยูวี เพื่อใช้แสงยูวีช่วยฆ่าเชื้อ ทำให้น้ำที่ผ่านระบบกรองดังกล่าว สามารถดื่มได้ เป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ในขณะเดียวกัน ก็พัฒนาบุคลากรอย่างนักการภารโรงที่เป็นผู้ดูแลระบบน้ำของโรงเรียนอยู่แล้ว ให้ทำหน้าที่ตรวจวัดคุณภาพน้ำอย่างสม่ำเสมออีกด้วย”  

             ด้านนายนเรศ สร้อยวัน ผู้ใหญ่บ้านชุมชนบ้านสัก กล่าวว่า จากความร่วมมือของทุกฝ่าย ทำให้โครงการฯ นี้ สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในชุมชนบ้านสักได้เป็นอย่างดี จากเดิมที่ระบบประปาหมู่บ้านไม่เพียงพอต่อการใช้งาน แรงดันน้ำไม่พอ ทำให้น้ำไหลอ่อน ในขณะเดียวกัน เมื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำ ก็พบว่า มีค่าสนิมเหล็กปนอยู่บ้าง สามารถใช้อุปโภคได้ แต่บริโภคไม่ได้ เมื่อทีมวิจัยจากนาโนเทค สวทช. และมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เข้ามาช่วยแก้ปัญหาด้านการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ตั้งแต่ระบบกรอง ระบบท่อส่ง การตรวจวัดคุณภาพน้ำ ในแบบที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ทำให้ความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตของคนในชุมชนดียิ่งขึ้น