ทรูหนุนภาครัฐร่วมปฏิวัติการช่วยเหลือฉุกเฉินของไทย โชว์ทดสอบระบบส่งพิกัดผู้แจ้งเหตุผ่านมือถือเรียลไทม์ด้วยเทคโนโลยี AML

i & Tech

ทรู คอร์ปอเรชั่น” หนุนภาครัฐร่วมปฏิวัติการช่วยเหลือฉุกเฉินของไทย โชว์ทดสอบระบบส่งพิกัดผู้แจ้งเหตุผ่านมือถือเรียลไทม์ ด้วยเทคโนโลยี AML เพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำในการเข้าช่วยเหลือ

            บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมขับเคลื่อนความปลอดภัยกับหน่วยงานภาครัฐ ทั้งสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)  กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (1669) ทดสอบระบบส่งพิกัดผู้แจ้งเหตุผ่านมือถือเรียลไทม์ ด้วยเทคโนโลยี Advanced Mobile Location (AML) ปฏิวัติการช่วยเหลือฉุกเฉินของไทยให้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งกว่าเดิม  โดยลูกค้าทรูมูฟ เอช และดีแทค สามารถใช้งานได้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติม  ระบบจะเชื่อมโยงข้อมูลพิกัดจากมือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ส่งตรงถึงศูนย์รับแจ้งเหตุโดยอัตโนมัติ ช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงจุดเกิดเหตุได้ทันท่วงที ลดความเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมมั่นใจได้ในมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

            ชีวิตประจำวันเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เหตุการณ์เจ็บป่วยไม่คาดฝันหรือสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องได้รับความช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างเร่งด่วนอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ จากสถิติของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ปี 2568 พบว่ามีการแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 1669 มากกว่า 1.9 ล้านครั้งทั่วประเทศ โดยมีเพียง ร้อยละ 42        ของผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตที่เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงได้ภายใน 8 นาที ซึ่งถือเป็น “มาตรฐานสากลของระบบแพทย์ฉุกเฉิน” และเป็น “ช่วงเวลาทองแห่งชีวิต (Golden Time)” ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้มากที่สุด ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นว่า “ความเร็วคือหัวใจของงานฉุกเฉิน” และเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องเร่งพัฒนาในระบบการแพทย์ฉุกเฉินของไทยให้ก้าวทันโลกดิจิทัล

          นายจักรกฤษณ์  อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทุกวินาทีมีความหมายในภาวะฉุกเฉิน เพราะมาตรฐานสากลกำหนดไว้ที่การเข้าถึงผู้ป่วยภายใน 8 นาที ซึ่งคือช่วงเวลาทองแห่งชีวิต ทรู คอร์ปอเรชั่น มุ่งมั่นนำศักยภาพด้านเทคโนโลยีและเครือข่ายร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของคนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสถานการณ์สำคัญที่ ‘พิกัดที่แม่นยำ’ ช่วยให้หน่วยงานรัฐและทีมแพทย์ประสานงานได้รวดเร็ว เพราะเสี้ยววินาทีมีความหมายต่อชีวิต วันนี้เราจึงร่วมมือกับภาคีภาครัฐ ทดสอบระบบส่งพิกัดผู้แจ้งเหตุผ่านมือถือเรียลไทม์ด้วยเทคโนโลยี  AML ที่ลูกค้าทรูมูฟ เอช และดีแทค สามารถใช้งานได้อัตโนมัติ ไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติม โดยรองรับมือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เมื่อผู้ใช้งานโทรแจ้งเหตุไปยัง 191 หรือ 1669 ระบบจะทำการส่งพิกัดตามตำแหน่งจริง (location-based position) จากการประมวลผลของ GPS, Wi-Fi และสัญญาณเครือข่าย แบบอัตโนมัติไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุช่วยลดเวลาค้นหา ให้เข้าถึงจุดเกิดเหตุได้ตรงจุด ถูกคน ทันเวลา เพิ่มโอกาสรอดชีวิต หรือช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ทัน โดยเราจะเดินหน้าขยายความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป”

            ระบบส่งพิกัดผู้แจ้งเหตุผ่านมือถือเรียลไทม์ ด้วยเทคโนโลยี Advanced Mobile Location (AML) มีขั้นตอนการทำงานดังนี้

1.โทร.แจ้งเหตุฉุกเฉิน :  จากมือถือระบบแอนดรอยด์บนเครือข่ายทรู คอร์ปอเรชั่น

2.คำนวณพิกัดอัจฉริยะ :  ระบบจะเปิดใช้ตัวระบุตำแหน่งพร้อมกัน เช่น GPS, Wi-Fi, สัญญาณเครือข่ายเพื่อหาพิกัดที่แม่นที่สุด

    3.ปลอดภัยเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล : แสดงพิกัดเฉพาะเมื่อมีการโทร.แจ้งเหตุฉุกเฉินเท่านั้น

    4.ส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ :  พิกัดที่คำนวณจะถูกส่งถึงศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินแบบอัตโนมัติ  และอัปเดตได้ระหว่างการสนทนา

    5.สั่งการถึงจุดเกิดเหตุ: ศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินเห็นพิกัดบนแผนที่พร้อมสั่งการทีมช่วยเหลือไปยังจุดเกิดเหตุ