สมาคม ATCI ฉลองความสำเร็จครั้งใหญ่ให้องค์กรไทยทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนนักเรียน และนักศึกษา ได้รับรางวัลใหญ่ในระดับนานาชาติ จาก 2 เวทีคือ รางวัล”ASOCIO Awards 2025” และรางวัล “Asia Pacific ICT Alliance Awards (APICTA) 2025” แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาและประสบความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาบริหารจัดการองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายสุภัค ลายเลิศ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย กล่าวว่า ATCI (The Association of Thai ICT Industry) เป็นสมาคมผู้ประกอบการด้าน ICT ของไทย ก่อตั้งขึ้นในปี 1989 โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเป็นตัวแทนของภาคอุตสาหกรรมในการขับเคลื่อนให้เกิดการนำเทคโนโลยี ICT และ Digital มาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ในช่วงเวลา 30 กว่าปีที่ผ่านมา ATCI ได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม ICT ของไทย เช่น การผลักดันให้เกิดนโยบายและแผนพัฒนาด้าน ICT ของประเทศ การปรับปรุงกฎหมาย มาตรการภาษี และมาตรฐานด้าน ICT การร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในการพัฒนาความรู้และทักษะด้าน IT และ Digital ให้กับบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมและบริการ การส่งเสริมอุตสาหกรรม ICT โดยเฉพาะ SME ของไทยให้เติบโตและแข่งขันได้ในภูมิภาค รวมทั้งการเข้าร่วมเป็นสมาชิกและประสานความร่วมมือกับองค์กรด้าน ICT ระหว่างประเทศ เช่น ASOCIO WITSA และ APICTA เป็นต้น

ในปีนี้ทางสมาคม ATCI มีความยินดีเป็นอย่างมากที่องค์ไทยทั้งภาครัฐและเอกชนที่ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติ ASOCIO Awards 2025 จากทางสมาพันธ์ ASOCIO (Asian Oceanian Computing Industry Organization) เป็นองค์กรนานาชาติ ประกอบด้วยสมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และบริการแห่งภาคพื้นเอเชีย-โอเชียเนีย ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการด้าน ICT จาก 24 เขตเศรษฐกิจ (ประเทศ) ทั่วเอเชียแปซิฟิก จาก ออสเตรเลีย ประเทศไทย บังคลาเทศ ภูฏาน เนปาล มาเก๊า ไต้หวัน ศรีลังกา เกาหลี อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา บรูไน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมียนมาร์ มองโกเลีย อินเดีย นิวซีแลนด์ปากีสถาน มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม
ASOCIO ก่อตั้งขึ้นในกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่นในปี 1984 เป็นองค์กรการค้า ICT ระหว่างประเทศที่ทรงเกียรติและมีบทบาททางการค้าที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย ASOCIO ประกอบไปด้วยบริษัท ICT ชั้นนำในภูมิภาคมากกว่า 10,000 บริษัท มียอดรายได้ต่อปีรวมกันหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ วัตถุประสงค์ของ ASOCIO คือการสนับสนุนและสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน ระหว่างสมาชิก เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และบริการในภูมิภาค
สำหรับกิจกรรมของ ASOCIO จะจัดขึ้นทุกปีในเขตเศรษฐกิจของสมาชิกที่แตกต่างกันหมุนเวียนกันไป มีตั้งแต่การจัดทำรายงานการวิจัยในเรื่องที่เป็นประโยชน์กับสมาชิก การจัดนิทรรศการ การมอบรางวัลให้กับองค์กรที่มีการพัฒนาและประสบความสำเร็จในการใช้ดิจิทัลที่โดดเด่น การจัดประชุมสัมมนา และการประชุมระดับรัฐมนตรีของ ASOCIO ซึ่งเป็นการประชุมที่สำคัญของภูมิภาค โดยจัดให้มีแพลตฟอร์มสำหรับรัฐบาลและอุตสาหกรรมในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและพัฒนาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆให้เกิดขึ้นระหว่างสมาชิก

ปีนี้ สมาพันธ์ ASOCIO ได้พิจารณาเห็นชอบให้มอบรางวัล ASOCIO Awards 2025 ให้กับองค์กรของประเทศไทยที่มีการพัฒนาและประสบความสำเร็จในการใช้ดิจิทัลที่โดดเด่น มาบริหารจัดการองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย (ATCI) ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาพันธ์ ASOCIO ใคร่ขอแสดงความยินดีให้กับองค์กรไทยทั้ง 10 องค์กรที่ได้รับรางวัล ในแต่ละสาขา ดังนี้
1. Outstanding Tech Company Award ได้แก่ บริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจมาตลอด 30 ปี ในการยกระดับโซลูชั่นด้านข้อมูลและดิจิทัลให้กับภาคธุรกิจไทย พร้อมเดินหน้าผลักดันเทคโนโลยี “Empowering Data and Beyond “ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน
2.Outstanding Digital Transformation Organization Award ได้แก่ การประปานครหลวง ที่ประสบความสำเร็จด้านการพัฒนาการให้บริการประชาชนในรูปแบบดิจิทัล ผ่านระบบ CIS Gen5 หรือโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศลูกค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ และแพลตฟอร์ม MWA eService ที่ช่วยให้ลูกค้ายื่นขอรับบริการต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น พร้อมด้วยแอพลิเคชั่น MWA on Mobile เวอร์ชั่น3 ที่มีผู้ใช้งานกว่า1.3 ล้านราย รองรับการตรวจสอบค่าน้ำ ใบแจ้งค่านำดิจิทัล การชำระค่าน้ำออนไลน์ บริการเช็คคุณภาพน้ำ และการติดตามสถานะงานบริการ
3. Digital Government Award ได้แก่ กรมสรรพากร ซึ่งเป็นองค์กรภาครัฐที่โดดเด่นในการนำไอทีมาใช้ในการพัฒนาองค์กรอย่างประสบความสำเร็จ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ ผ่านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนา และยกระดับการบริหารจัดการ รวมถึงการให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลลัพธ์เชิงประจักษ์
4. Talent Development Award ได้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งมีบทบาทในฐานะผู้นำด้านการสร้างบุคลากรคุณภาพ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับการศึกษาและการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพในระดับนานาชาติ โดยมุ่งเน้นการสร้างระบบการเรียนรู้และสภาพแวดล้อมที่อ้อต่อการพัฒนาศักยภาพคนให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล โดยเชื่อว่า คน คือหัวใจของการพัฒนา และเทคโนโลยี คือพลังขับเคลื่อนที่จะทำให้มหาวิทยาลัยเติบโตอย่างยั่งยืน

5. HealthTech Award ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงเรียนแพทย์แห่งที่ 3 ของประเทศ และแห่งแรกในภูมิภาค มีการพัฒนา Med CMU Digital Ecosystem ที่ผสานโลกการแพทย์กับเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างครบวงจร โดยสามารถเชื่อมโยงระบบต่าง ๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ ทำให้พัฒนาโปรแกรม ที่สามารถปรับตามระบบงานที่เปลี่ยนแปลงไป หรือระบบงานใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ง่ายและรวดเร็ว ความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้คณะแพทยศาสตร์ มช. เป็นต้นแบบ Smart Hospital & Health Innovation Hub ประจำภูมิภาค
6. Cybersecurity Award ได้แก่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่ยกระดับมาตรฐานด้านดิจิทัลและการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ความเสถียร และความน่าเชื่อถือของระบบสารสนเทศในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ
7. ESG Award ได้แก่ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ที่ได้พัฒนา GHGPlatform สำหรับรวบรวม ตรวจสอบ และรายงานข้อมูลก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ระบบดังกล่าวรองรับการจัดเก็บและติดตามข้อมูลแบบเรียลไทม์จากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทั่วประเทศ ปัจจุบันมีหน่วยงานภาครัฐกว่า50 แห่ง เข้าร่วมใช้งาน
8. Start-Up Award ได้แก่ บริษัท ราวิส เทคโนโลยี จำกัด สตาร์ทอัพด้านซอฟต์แวร์และAIด้านชีววิทยาศาสตร์ ซึ่งพัฒนาแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วยAI เพื่อยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการวิจัยก่อนคลินิก การวิจัยทางคลินิก และการผลิต ภายใต้มาตรฐานกำกับดูแลระดับสากล ปัจจุบันแพลตฟอร์มถูกใช้งานในศูนย์วิจัยและองค์กรชั้นนำกว่า10 แห่งทั้งในและต่างประเทศ
9 . AI Service Provider Award ได้แก่ บริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จำกัด ผู้นำด้านโซลูชั่นปัญญาประดิษฐ์หรือ AI สำหรับองค์กร และที่ปรึกษาด้านการวิคราะห์ข้อมูลและระบบอัตโนมัติ ดำเนินงานร่วมกับองค์กรชั้นนำในหลากกลายอุตสาหกรรม ภายใต้แพลตฟอร์ม STEL.AI ที่มุ่งช่วยให้องค์กรตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด โปร่งใส และเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรให้ดียิ่งขึ้น
10. Global Business Service Award ได้แก่ บริษัท โสมาภา อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการให้บริการเกี่ยวกับ Border Management ด้วยประสบการณ์ 30 ปี โดยมีแพลตฟอร์ม Smart Border Solution and Services ซึ่งเป็นโซลูชั่นและการให้บริการที่ครบวงจรสำหรับการจัดการการผ่านแดน

สำหรับการมอบรางวัลในปีนี้ ได้จัดพิธีรับมอบรางวัลดังกล่าวในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ณ Sheraton Grand Taipei Hotel กรุงไทเป ไต้หวัน ระหว่างการประชุม ASOCIO Digital Summit 2025 ในวันที่ 10-12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
นอกจากรางวัล ASOCIO Awards 2025 แล้ว ทางสมาคม ATCI ยังร่วมยินดีกับอีกหนึ่งความสำเร็จของทีมประเทศไทย ในการคว้ารางวัลจากเวที Asia Pacific ICT Alliance Awards (APICTA) 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 8 ธันวาคม 2568 ณ เมืองเกาสง ไต้หวัน ซึ่งเป็นการแข่งขันด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่สำคัญที่สุดรายการหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
นายสุภัค ลายเลิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขัน APICTA ถือเป็นเวทีสำคัญระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่มีเป้าหมายเพื่อเฟ้นหาผลงานเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีความคิดสร้างสรรค์ คุณภาพ และศักยภาพในระดับสากล โดยในปี 2025 มีผลงานจากประเทศสมาชิกเข้าร่วมการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 268 ผลงาน
สำหรับประเทศไทยได้ส่งผลงานเข้าร่วมการแข่งขัน 19 รายการแข่งขัน จาก 13 ผลงาน ซึ่งเป็นผลงานผ่านการคัดเลือกจากเวทีระดับประเทศ Thailand ICT Awards (TICTA) โดยผลงานตัวแทนประเทศไทยสามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น และคว้ารางวัลกลับมาได้รวมทั้งสิ้น 11 รางวัล ประกอบด้วย รางวัล Winner จำนวน 3 รางวัล รางวัล First Runner-up จำนวน 5 รางวัล รางวัล Second Runner-up จำนวน 1 รางวัล และรางวัล Merit จำนวน 2 รางวัล

ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการ นักเรียน นักศึกษา ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของไทยที่สามารถพัฒนาผลงานที่มีคุณภาพในระดับนานาชาติ ทางสมาคมขอขอบคุณผู้เข้าร่วมแข่งขันทุกทีมที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการพัฒนาผลงาน และร่วมสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยบนเวทีนานาชาติ”
ทั้งนี้ผลงานของประเทศไทยรับรางวัล Asia Pacific ICT Alliance (APICTA) 2025
การแข่งขันในหมวดผู้ประกอบการ ประเทศไทยได้รับ รางวัล Winner 1 รางวัล รางวัล First Runner-Up 3 รางวัล และ Second Runner-Up 1 รางวัล ดังนี้ หมวด Inclusions & Community Services สาขา Education บริษัท สปาร์ค เอ็ดดูเคชัน จำกัด เจ้าของผลงาน CodeVenture ได้รับรางวัล Winner และได้รับรางวัล Second Runner-Up ในหมวด Start-Up of the Year ส่วนหมวด Technology – AI Technology of the Year บริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จำกัด กับ ผลงาน Compliance Mapping Platform (CMP) ได้รับรางวัล First Runner-Up และยังได้รับรางวัล First Runner-Up ในหมวด Research & Development อีกด้วย ขณะที่หมวด Technology – Business Data Analytics of the Year บริษัท พันธวณิช จำกัด เจ้าของผลงาน Integrity One ได้รับรางวัล First Runner-Up
สำหรับการแข่งขันในหมวดนักเรียน นักศึกษา ประเทศไทยได้รับ รางวัล Winner 2 รางวัล รางวัล First Runner-Up 2 รางวัล และ Merit 1 รางวัล ดังนี้ หมวด Junior Student โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย คว้ารางวัล Winner จากผลงาน K10-X และในหมวดเดียวกันยังคว้ารางวัล Merit จากผลงาน WandQuest ระดับ Senior Student หมวด Innovative Solutions โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เจ้าของผลงาน CytoScanZ คว้ารางวัล Winner ส่วนหมวด Technical Solutions โรงเรียนวารีเชียงใหม่ เจ้าของผลงาน Sleep plus: อุปกรณ์วินิจฉัยโรคหยุดหายใจขณะหลับด้วยปัญญาประดิษฐ์แบบไม่รบกวนการนอน ได้รับรางวัล First Runner-Up
ส่วนระดับTertiary Student หมวด Technical Solutions มหาวิทยาลัยมหิดล และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กับผลงานCardiacZ Advanced AI-Driven Hybrid System for Cardiac Analysisคว้ารางวัล First Runner-Up และ หมวด Innovative Solutions มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีกับผลงาน CarbonCap: AI-Powered Carbon Stock Monitoring and Trading ได้รับรางวัล Merit
