กทม.เตรียมเปิดให้บริการเรือไฟฟ้า 12 ลำในคลองแสนแสบส่วนต่อขยายจากวัดศรีบุญเรือง-สำนักงานเขตมีนบุรีใน ก.พ.นี้

New Energy

กทม.เปิดพร้อมให้บริการเรือไฟฟ้า 12 ลำในคลองแสนแสบส่วนต่อขยายจากวัดศรีบุญเรือง-สำนักงานเขตมีนบุรี ภายในเดือน ก.พ. 65 นี้

                พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเพมหานคร เปิดเผยว่า ขณะนี้ กทม.มีโครงการที่พัฒนาคลองและชุมชนริมคลองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองให้สะอาดสวยงาม รวมถึงการจัดการเดินเรือโดยสารสาธารณะด้วยเรือไฟฟ้าในคลองแสนแสบ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น และรักษาสภาพแวดล้อมให้ปลอดมลพิษ โดยสำนักการจราจรและขนส่ง

                พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่าได้เตรียมเปิดให้บริการเดินเรือไฟฟ้าในคลองแสนแสบส่วนต่อขยาย จากวัดศรีบุญเรือง-สำนักงานเขตมีนบุรี ซึ่งเรือโดยสารไฟฟ้า จะทำให้เกิดคลื่นน้อย มีเสียงเบา ไม่มีการปล่อยของเสียลงคลอง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะและไม่เกิดการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน โดยได้ดำเนินการจัดซื้อเรือไฟฟ้า 12 ลำ ก่อสร้างท่าเทียบเรือใหม่ทดแทนท่าเทียบเรือเดิมที่ชำรุดเสียหาย จำนวน 8 ท่า

                ขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนลงนามว่าจ้างผู้ให้บริการเดินเรือไฟฟ้าคลองแสนแสบส่วนต่อขยาย คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 นี้ กทม.เปิดพร้อมให้บริการเรือไฟฟ้า 12 ลำในคลองแสนแสบส่วนต่อขยาย จาก’วัดศรีบุญเรือง-สำนักงานเขตมีนบุรี’ภายใน ก.พ.นี้ ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50-60 นาที ให้บริการวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 05.30 น.-20.30 น. ลำสุดท้ายออกประมาณเวลา 19.30 น. ช่วงเวลาเร่งด่วนออกทุก 15 นาที ช่วงเวลาปกติออกทุก 30 นาที ส่วนวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เดินเรือเวลา 06.00 น.-19.00 น. ลำสุดท้ายออกประมาณเวลา 18.30 น. ออกทุก 30 นาที

                ทั้งนี้โดยมีท่าเทียบเรือที่ให้บริการในแนวเส้นทางที่สำคัญ ได้แก่ 1.ท่าเรือวัดศรีบุญเรือง 2.ท่าเรือโรงเรียนพร้อมมิตรพิทยา 3.ท่าเรือเสรีไทย 26 4.ท่าเรือคลองระหัส 5.ท่าเรือหมู่บ้านร่มไทร 6.ท่าเรือสุเหร่าแดง 7.ท่าเรือชุมชนหลอแหลใหญ่ 8.ท่าเรือตลาดมีนบุรี 9.ท่าเรือสำนักงานเขตมีนบุรี (หลังสำนักงานอัยการมีนบุรี)

                สำหรับการให้บริการดังกล่าวเป็นไปตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหาร พัฒนา อนุรักษ์ และฟื้นฟูคลองแสนแสบ ได้ประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการร่วมกันของ 8 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร องค์การจัดการน้ำเสีย กรมเจ้าท่า กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมชลประทาน และจังหวัดฉะเชิงเทรา

                ทั้งนี้ โดยมีงานที่สำคัญตามแผนหลัก 5 ประการ คือ การแก้ไขปัญหามลพิษและคุณภาพน้ำ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรน้ำ การปรับปรุงภูมิทัศน์ และการเสริมสร้างความปลอดภัยในการสัญจรทางน้ำของประชาชน ระยะเวลาดำเนินการ 11 ปี (2564-2567) รวม 84 โครงการ ในภาพรวมของคลองแสนแสบ ความยาวรวม 72 กม. เชื่อมต่อแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำบางปะกงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดฉะเชิงเทรา

                อย่างไรก็ตามโดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร กรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรมควบคุมมลพิษ สำรวจแหล่งกำเนิดมลพิษที่อยู่ริมคลองให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.นี้ และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อหยุดต้นทางน้ำเสียที่ไหลลงคลอง รวมทั้งการจัดหาเรือไฟฟ้ามาใช้แทนเรือเครื่องยนต์ดีเซล เพื่อลดปัญหาด้านมลพิษ พร้อมทั้งปรับปรุงท่าเรือโดยคำนึงถึงความสะดวกและปลอดภัยของประชาชน