The 1 เผย 3 สิ่งชี้อนาคตการตลาดดิจิทัล

News Update

The 1 เผย 3 สิ่งชี้อนาคตการตลาดดิจิทัล พร้อมย้ำ “ทำก่อนได้เปรียบ” ในงาน DAAT DAY 2022

          นายกฤษณะ งามสม  Head of Business แห่ง The 1 (เดอะ วัน)   ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล   กล่าวถึงแง่คิดสำหรับธุรกิจท่ามกลางแลนด์สเคปของการตลาดที่เปลี่ยนไปในยุคดิจิทัล ภายใต้หัวข้อ “UNLOCKING THE POWER OF DATA INTO SALES” บนเวที Media & Performance ในงาน DAAT Day 2022 – Era of Effectiveness  

          โดยสรุปถึง 3 สิ่งสำคัญที่ธุรกิจควรทำเพื่อรับมือกับแลนด์สเคปการตลาดที่เปลี่ยนไปในยุคดิจิทัล    ได้แก่  

            1. “1st Party Data”  คือ ทางรอดที่ยั่งยืน   

          โดย 1st Party Data  จะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับแบรนด์ ธุรกิจ และนักการตลาด การเก็บข้อมูลหรือ Data ของลูกค้า ถือเป็นเรื่องสำคัญ  ซึ่งจะเป็นทางออกหรือทางรอดที่ยั่งยืนของแบรนด์หรือธุรกิจ   นอกจากนี้การทำก่อนได้เปรียบ เพราะปัจจุบัน ไม่ใช่ทุกธุรกิจที่มี Data การหา Data และ Insights จากแหล่งอื่น เริ่มมีข้อจำกัดมากขึ้นในเรื่องความเป็นส่วนตัว ดังนั้น 3rd party data หรือข้อมูลจากแพลตฟอร์มต่างๆ เริ่มมีประสิทธิภาพน้อยลง ในเวลาเดียวกัน ลูกค้าก็คาดหวังว่าจะได้รับอะไรที่ Personalized สำหรับตัวเองมากขึ้น   และตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนของการทำ Targeting ทางการตลาด คือ ข้อมูลการใช้จ่าย (Transaction) ที่เกิดขึ้นจริง อาทิ ลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ซื้อเครื่องสำอางค์ที่มีราคาสูง แสดงว่ามีกำลังซื้อในผลิตภัณฑ์ประเภทนั้น ซึ่งต้องแยกให้ออกระหว่างความสนใจกับการซื้อจริง ลูกค้าบางคนอาจจะสนในสัตว์เลี้ยง แต่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ แต่ถ้าคนที่ซื้อสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ย่อมชัดเจนว่าเลี้ยงสัตว์

          สำหรับวิธีการ Unlock อย่างไรให้ Data กลายเป็นความสามารถในการสร้างยอดขายให้ธุรกิจนั้นเริ่มจาก   1. Identify : ไม่ว่าจะทำผลิตภัณฑ์ โปรแกรม หรือแคมเปญการตลาดอะไรให้กับลูกค้า ให้เริ่มจาก Data ก่อน อย่าเริ่มจากแบรนด์    2.Target :  เลือกสื่อสารให้ถูกช่องทาง ซึ่งการมี 1st Party Data ทำให้รู้ว่าช่องทางไหน คือช่องทางหลักที่ลูกค้า engage กับเรา ที่เข้ามาซื้อ หรือสอบถาม   3. Convert : เราต้อง convert ให้เป็นยอดขาย หรือให้มาสมัครสมาชิก เราสามารถทำได้โดยผ่านการตั้งราคา โปรโมชั่น ซึ่งจะรู้ได้จาก Data เราจะรู้ว่า ราคาไหน หรือโปรโมชั่นไหนที่ทำให้เกิดการซื้อจริง ซึ่งถ้าเรามี Data ที่มากพอจะสามารถทำสิ่งนี้ได้ 4. Engage & Delight : หลายคนมักมองข้ามเมื่อได้ลูกค้ามาแล้วจะทำอย่างไรต่อ ต้องทำให้รู้สึกประทับใจที่เป็นลูกค้าแบรนด์เรา ให้มีสิทธิพิเศษ ให้อยู่กับเราเรื่อยๆ ให้มีประสบการณ์ที่แตกต่างจากคนที่ไม่ได้เป็นลูกค้าประจำ

          2.  Business Partnership คือ โอกาส

           ถ้าธุรกิจ ไม่มีการเก็บ 1st Party Data ก็สามารถทำได้ด้วยการ Partnership เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดขึ้นได้  โดย  The 1 for Business สามารถทำร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อนำ Data มาวิเคราะห์และสื่อสารร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลประโยชน์ที่ดีที่สุดกับลูกค้า ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสให้แบรนด์ก็เติบโตไปด้วยกัน โดยมี 3 โซลูชั่น ได้แก่  1. Data & Insight – Exchange Data ทำให้รู้จักลูกค้าได้มากขึ้น ทำให้มอบสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม  2. Reach Core Audience – The 1 for Business มีเครื่องมือที่ช่วยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ในช่องทางที่ใช่ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางของ The 1 หรือผ่านสื่อช่องทางอื่น ๆ    3. Endless Possibility of Sales & CLV – ช่วยธุรกิจ connect กับระบบ Loyalty และ Point Ecosystem ของ The 1 เป็นแบบ Ready – to -scale คือ จะมีทั้งลูกค้า และถ้าลูกค้ามี Point ก็สามารถนำมา Redeem ในระบบได้ทันที และเป็นฐานสมาชิกที่เหนียวแน่นมีมากกว่า 19 ล้านราย

          ทั้งนี้ตัวอย่างการใช้โซลูชั่นของ The 1 ที่อยู่ในกลุ่ม FMCG พบว่ามี Conversion ที่มากกว่าปกติ 2.5 เท่า เมื่อมีการใช้ Audience ร่วมกับ Touchpoint ของ The 1   ส่วนกลุ่มที่เป็น Premium Product แล้วโฟกัสไปที่กลุ่ม Wealth Segment จะมี CPR สูงขึ้นเป็น 2 เท่า และ Conversion เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า

          และ 3. Customer Lifetime Value (CLV) คือ ความยั่งยืน

          การทำ 1St Party Data หรือกระทั่ง Business Partnership รวมถึงการถอดรหัสไปสู่ความเข้าใจทั้งพฤติกรรมการซื้อและความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า มอบสิทธิพิเศษที่ตรงใจอย่างต่อเนื่อง นอกจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น คือ การดูแลลูกค้าให้อยู่กับเราในระยะยาว ในขณะเดียวกันแบรนด์หรือธุรกิจก็เติบโตได้อย่างยั่งยืน