EVAT จับมือพันธมิตรจัดงานเเสดงนวัตกรรมด้านยานยนต์ไฟฟ้าเเห่งปี iEVtech 2022 ชูคอนเซ็ปต์ โมเดลเศรษฐกิจใหม่

News Update

สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ร่วมกับบริษัท อินฟอร์มา มาร์เก็ต ประเทศไทย พร้อมพันธมิตรทางธุรกิจ จัดงานเเสดงนวัตกรรมด้านยานยนต์ไฟฟ้าเเห่งปี iEVtech 2022 ชูคอนเซ็ป Bio-Circular-Green-Economy โมเดลเศรษฐกิจใหม่ ต้อนรับการเปิดศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์อย่างเป็นทางการ

            เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย โดยนายกสมาคมฯคุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้จัดงาน iEVtech 2022 ร่วมกับบริษัท อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ พร้อมพันธมิตรทางธุรกิจ ได้แก่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน), บริษัท โอเรียนเต็ลคอปเปอร์ จํากัด, บริษัท ทรุ้มพ์ฟ จำกัด, บริษัท นากาเซ่ (ประเทศไทย) จำกัด, บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จัดงานประชุมด้านยานยนต์ไฟฟ้านานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 ประจำปี 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 14–16 กันยายน พ.ศ. 2565 และนับเป็นงานแรกที่ได้รับเกียรติมาจัดงานที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์อย่างเป็นทางการ

            โดยพิธีเปิดงานได้จัดขึ้นในวันที่ 14 กันยายน 2565 ภายใต้แนวคิด “Future Mobility Aspiration through Bio-Circular-Green Economy within APEC” ซึ่งมีพิธีเปิด โดยนายกสมาคมฯคุณกฤษฎา อุตตโมทย์ พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคม และคุณสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินฟอร์มา มาร์เก็ตประเทศไทย เเละ คุณนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (BOI)  กล่าวต้อนรับพิธีเปิด

            คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ได้กล่าวว่า ในปัจจุบันประเด็นด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ได้กลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งโลก ซึ่งมลพิษทางอากาศเป็นปัญหาที่ได้รับความสนใจมากที่สุด  ดังนั้นการค้นหาแนวทางในการบรรเทามลพิษทางอากาศ จึงมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะในภาคคมนาคม การใช้พลังงานหมุนเวียนและยานยนต์ไฟฟ้า (EV) จึงกลายเป็นเเนวทางเเก้ปัญหาสิ่งเเวดล้อมสำคัญของทุกประเทศ  ซึ่งในงานประชุมนานาชาติด้านสิ่งเเวดล้อม COP26 ที่ผ่านมา ที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร ประเทศไทยได้นำแบบจำลอง “Bio-Circular-Green” หรือ BCG มาใช้ และย้ำว่าจะเป็นหนทางสู่การเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์สู่การพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยหัวข้อนี้จะอยู่ในวาระการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก(APEC) ที่กรุงเทพฯ ในปี 2565 อีกด้วย  นอกจากนี้ รัฐบาลได้ประกาศกระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยตั้งเป้าที่จะผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ได้เเก่ รถไฟฟ้าและ รถกระบะไฟฟ้าจำนวนกว่า 725,000 คัน หรือประมาณ 30% ของการผลิต รวมไปถึง เพิ่มการจดทะเบียนรถไฟฟ้าและรถกระบะไฟฟ้าเป็นประมาณ 440,000 คันหรือประมาณ 50% ภายในปี 2573

            อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่รัฐบาลเท่านั้นที่มีนโยบายสนับสนุนทั้งด้านการผลิตเเละการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า เเต่ประชาชนทุกภาคส่วน รวมไปถึงสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยได้มีโอกาสสนับสนุนเเละส่งเสริมความรู้ด้านเทคโนโลยี ผ่านการจัดการเเข่งขันการดัดแปลงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมา เพื่อให้นักศึกษาทั้งในระดับอาชีวศึกษาและในระดับอุดมศึกษา รวมทั้งประชาชนทั่วไป ร่วมกันสาธิตเทคโนโลยีการแปลงรถจักรยานยนต์ ให้เป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในลักษณะการแข่งขัน เพื่อผลักดันเเละต่อยอดให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเติบโตอย่างมั่นคงเเละยั่งยืน”

การเสวนาหัวข้อ “Future Mobility Aspiration through Bio-Circular-Green Economy within APEC”  

            นอกจากนี้สมาคมฯได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้าจากหลากหลายประเทศมานำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในทุกแพลตฟอร์มผ่านมุมมองผู้บริหารระดับสูงในองค์กรชั้นนำต่างๆ และในระดับความร่วมมือระหว่างประเทศโดยผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขาได้ร่วมแชร์ข้อมูลและทัศนคติเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้หัวข้อ “Future Mobility Aspiration through Bio-Circular-Green Economy within APEC” โดยมีผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ มาร่วมอภิปรายในหัวข้อย่อย เช่น กำหนดทิศทางด้านนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตในเขตเมือง (โดยยึดหลักปฏิบัติจากนานาชาติ) ข้อกำหนดและกฎเกณฑ์ในโครงสร้างพื้นฐานของสถานีอัดประจุไฟฟ้าและรูปแบบสำหรับการใช้งานในเมือง และความคืบหน้าด้านการปรับเปลี่ยนแบตเตอรี่แห่งชาติสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ฯลฯ