เบรนเนอร์จี้ ร่วมสนับสนุนยุทธศาสตร์ใหม่กองทุนส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม

News Update

เบรนเนอร์จี้ ร่วมสนับสนุนบทบาทและยุทธศาสตร์ใหม่ของกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมเพื่อช่วยส่งเสริมการตัดสินใจในการผลักดัน เรื่อง Climate Action เพื่อให้โลกดีกว่าที่เป็นอยู่โดยดำเนินไปพร้อมการเพิ่มขีดความสามารถของภาคธุรกิจให้แข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ

           คุณเบญจ เบญจรงคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เบรนเนอร์จี้ จำกัด ในกลุ่มบีซีจี เบญจจินดา กล่าวในเวทีระดมทุน The 1st SE Fund Forum and Fundraising: Bigger roles, Wider opportunities  เรื่อง “บทบาทและยุทธศาสตร์ใหม่ของกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม” ซึ่งจัดโดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ว่า   ปัจจุบันทั่วโลกมีการผลักดันเกี่ยวกับเรื่อง  Climate Action ซึ่งประเทศไทยเองมีการผลิตและส่งออกให้กับบริษัทต่างชาติเป็นจำนวนมาก ดังนั้นในอนาคตธุรกิจส่งออกจะถูกผลักดันเกี่ยวกับสินค้าที่ผลิตและส่งออกไปว่ามีผลดีต่อสิ่งแวดล้อม หรือทำให้เกิดความยั่งยืนในสังคม

           ทั้งนี้บริษัท เบรนเนอร์จี้ ดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะในด้าน Connectivity Internet ซึ่งอยู่ในทุกบ้านทุกครัวเรือน รวมถึงธุรกิจด้านเทคโนโลยีที่ร่วมมือและเกี่ยวข้องกับลูกค้าต่างชาติเป็นจำนวนมาก ดังนั้นความตระหนักเรื่องของการผลิตที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน  จึงเป็นการเตรียมความพร้อมในระดับประเทศที่สำคัญมากสำหรับองค์กรทุกระดับ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชน ตั้งแต่การแสดงความคิดเห็นไปจนถึงการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยมุ่งเน้นพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้ขยายขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าทั้งภายในและระหว่างประเทศได้เป็นอย่างดี

            อย่างไรก็ดี คุณเบญจ เน้นย้ำถึงบทบาทของนักลงทุนทางสังคมที่จะช่วยส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับระบบนิเวศธุรกิจของวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ได้อย่างยั่งยืน เพราะดำเนินการอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ต้องมุ่งสู่เป้าหมายแห่งความยั่งยืน (SDGs) ไปด้วยกัน   ซึ่งทางกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม จะทำหน้าที่กำกับดูแลในการเลือกและคัดสรร Social Enterprise ที่มีศักยภาพ   ปัจจุบันทุกองค์กรมีการตื่นตัวเรื่องของความยั่งยืนมากขึ้น  ทางฝั่งบริษัทเอกชนเอง จึงอยากมีความมั่นใจเช่นเดียวกันในการลงทุนและสามารถเห็นผลได้จริงตามที่คาดหวัง  ซึ่งเบรนเนอร์จี้ มีสำนักงานอยู่ในกรุงเทพ ฯ  แต่มีการให้บริการลูกค้าทั่วประเทศ ดังนั้นจึงต้องอาศัยกองทุน ฯ  เครือข่ายของ Social Enterprise  เข้ามาช่วยในการกำกับดูแล เพื่อให้นักลงทุนทางสังคม มั่นใจในธุรกิจที่จะร่วมลงทุนว่าจะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่องค์กรต้องการได้อย่างแท้จริง

           “เบรนเนอร์จี้ เตรียมความพร้อมสู่การเปลี่ยนแปลงและ moving forward ในองค์กร พร้อมทั้งมองว่าผู้ประกอบการของไทยเองต้องตระหนัก ถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและเกิดความยั่งยืน เนื่องจากมีข้อตกลงระดับสากลในเรื่องการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์  (Net Zero) ของหน่วยงานที่ไม่ใช่ของรัฐ ตามข้อตกลงด้านสภาพภูมิอากาศกลาสโกว์ (Glasgow Climate Pact)” คุณเบญจ กล่าว