อาลีบาบา กรุ๊ป เผยแพร่รายงาน ESG ประจำปี 2566

นวัตกรรมยั่งยืน

อาลีบาบา กรุ๊ป เผยแพร่รายงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ฉบับล่าสุด ซึ่งเผยให้เห็นถึงความก้าวหน้าด้าน ESG ของบริษัทฯ ในระยะเวลา 12 เดือน (เมษายน 2565 – มีนาคม 2566)

               รายงานฉบับนี้ อาลีบาบาได้เปิดเผยให้เห็นถึงความพยายามในการลดคาร์บอนฟุตพรินต์ของบริษัทฯ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในทุกกระบวนการดำเนินงานของบริษัทฯ ตั้งแต่ต้นจนจบได้อย่างมาก ด้วยการใช้เทคโนโลยีและการใช้พลังงานสะอาดเพิ่มขึ้น อาลีบาบา ยังได้เผยความคืบหน้าในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของบริษัทฯ ใน Scope 3+ นับตั้งแต่บริษัทฯ ได้เริ่มแนวคิดคำมั่นในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากระบบนิเวศดิจิทัลของบริษัทฯ และได้ดำเนินการในปีแรก

                นายแดเนียล จาง ประธานและซีอีโอของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวไว้ในรายงานฉบับนี้ว่า  “ตลอดปีที่ผ่านมา เราได้ทำงานเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จที่มีคุณภาพสูง ตามที่เราได้ตั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนไว้”

               นายแดเนียล กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน ควบคู่กับการส่งเสริมนวัตกรรมทางเทคโนโลยี และการสร้างระบบนิเวศที่ทุกคนมีส่วนร่วม ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมาย ‘double reduction’ จากการที่เราสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากกระบวนการดำเนินงานของเราเอง และลดความเข้มข้นของคาร์บอนในทุกการดำเนินงานของเรา”

               จากรายงานดังกล่าว ระบุในปีงบประมาณ 2566 ของอาลีบาบา (เมษายน 2565 ถึงมีนาคม 2566) การปล่อยก๊าซสุทธิจากการดำเนินงานของอาลีบาบา (Scope 1 & 2) อยู่ที่ 4.681 ล้านเมตริกตันของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (MtCO2e) ลดลง 12.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY)

               การดำเนินงานของอาลีบาบาเองมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนลดลง 1.419 ล้าน MtCO2e ในปีงบประมาณ 2566 ทั้งนี้เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY) การลดลงของการปล่อยก๊าซคาร์บอนนี้เพิ่มขึ้น 128.9% ในขณะที่ความเข้มข้นของคาร์บอนในการดำเนินงานของอาลีบาบาอยู่ที่ 8.7 MtCO2e/รายรับหนึ่งล้านหยวน ลดลง 5.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY)

               และในปีงบประมาณ 2566 อาลีบาบาลดการปล่อยก๊าซที่เกิดจากระบบนิเวศทั้งหมดของบริษัท (Scope 3+) ลงได้ 22.907 ล้าน MtCO2e   สัดส่วนของการใช้พลังงานสะอาดจากการใช้พลังงานทั้งหมดในดาต้าเซ็นเตอร์ของอาลีบาบา คลาวด์ ซึ่งเป็นธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป เพิ่มขึ้นจาก 21.6% ในปีงบประมาณ 2565 เป็น 53.9% ในปีงบประมาณ 2566  ขณะเดียวกันดาต้าเซ็นเตอร์ของอาลีบาบาคลาวด์ บรรลุผลสำเร็จในการลดค่า PUE จาก 1.247 ในปีงบประมาณ 2565 เป็น 1.215 ในปีงบประมาณ 2566 และอาลีบาบา คลาวด์ ช่วยให้ลูกค้าลดการปล่อยก๊าซ 6.863 ล้าน MtCO2e ในปีงบประมาณ 2566 ด้วยการเปลี่ยนจากการใช้ดาต้าเซ็นเตอร์และเซิร์ฟเวอร์แบบดั้งเดิมที่ติดตั้งในองค์กรไปใช้งานโซลูชันคลาวด์

               ในเดือนมีนาคม 2566 อาลีบาบา คลาวด์ เปิดตัว Energy Expert แพลตฟอร์มด้านความยั่งยืนที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งช่วยองค์กร 2,580 แห่งทั่วโลกให้ติดตามตรวจสอบ วิเคราะห์คาร์บอนฟุตพริ้นต์และปรับให้เหมาะสม ช่วยให้ธุรกิจใช้ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อนในการดำเนินการด้านต่าง ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน

               ในปีงบประมาณ 2566 Cainiao ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านโลจิสติกส์ของอาลีบาบาได้ลดการใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ลงได้ 184,000 ตัน ด้วยการส่งเสริมให้จัดส่งสิ่งของด้วยการใช้หีบห่อที่ใช้แล้ว และกล่องเดิม  ส่วนแพลตฟอร์มแยกประเภทคาร์บอนของอาลีบาบา พบว่ามีผู้ใช้จำนวน 187 ล้านรายเข้าร่วมในกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในปีงบประมาณ 2566

               นอกจากนี้ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2566  มีการนำเครื่องมือคัดกรองโรคอัลไซเมอร์ที่ใช้ AI ซึ่งอาลีบาบาพัฒนาขึ้นเองไปให้บริการผู้สูงอายุแล้ว 118,746 คน  อาลีบาบาเปิดตัวโปรแกรม “Cloud for Youth” ในโรงเรียน 102 แห่ง ให้บริการกับครูและนักเรียนมากกว่า 60,000 คน  มีการใช้งานฟีเจอร์การนำทางรถเข็นวีลแชร์ของ Amap มากกว่า 900,000 ครั้ง  และในปีงบประมาณ 2566 มีการนำแอปพลิเคชัน Taobao และ Tmall ไปให้บริการผู้บกพร่องทางการมองเห็นมากกว่า 320,000 ราย

                ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 2023 ESG Report ได้ที่ https://www.alizila.com/alibaba-slashes-carbon-footprint-by-13-through-emission-saving-efforts/