“OverDaBlue” ดีพเทคสตาร์ทอัพ ชูเทคโนโลยีชีวภาพเร่งผลิต “สาหร่าย” แหล่งอาหารและยาแห่งอนาคต

Cover Story

               “สาหร่าย” สิ่งมีชีวิตแห่งท้องทะเลที่มีศักยภาพในการเป็นแหล่งอาหารและยาแห่งอนาคต ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นแหล่งผลิตสาหร่ายของโลก  แต่ยังติดปัญหาเรื่องของต้นทุนการผลิตที่ยังสูงจนแข่งขันได้ยากกับผลิตภัณฑ์อื่นที่ทดแทนได้ในตลาดโลก นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์สาหร่ายที่มีอยู่ในไทย  มักเป็นการผลิตเพื่อตอบโจทย์ปัญหาและให้คุณค่าแบบเดิม ๆ ในขณะที่ตลาดโลกมองหานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน

               “OverDaBlu”  เทคสตาร์ทอัพไทยที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวภาพ  จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตสาหร่ายทางเลือก  ที่ช่วยให้สามารถผลิต “สาหร่าย” ในราคาต้นทุนที่แข่งขันได้ รวมทั้งได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า มีความแตกต่างและเป็นที่ต้องการของตลาด

               “ผศ.ดร.พันธุ์วงค์  คุณธนะวัฒน์”  ที่ปรึกษาบริษัท OverDaBlue และอาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี   ผู้บ่มเพาะความชื่นชอบในสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอย่างสาหร่าย จนกลายเป็นนักเทคโนโลยีชีวภาพสาหร่ายในปัจจุบัน  บอกว่า “ แม้ว่าการก้าวเดินเข้ามาในโลกของสาหร่ายของผม จะเริ่มจากความสนใจใคร่รู้ในธรรมชาติอย่างบริสุทธิ์  แต่สุดท้ายโลกก็ค้นพบว่าสาหร่ายคือ สิ่งมีชีวิตที่มีศักยภาพเป็นแหล่งอาหารและยาแห่งอนาคตในโลกที่กำลังเข้าสู่ภาวะยากลำบาก    ตนเองแม้จะไม่ชอบการทำธุรกิจ แต่ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องกลับเข้ามาทำในเรื่องการแก้ปัญหาอาหารและปากท้องของผู้คน และจำเป็นต้องใช้เครื่องมือของความเป็นผู้ประกอบการ ในการนำสิ่งที่ค้นพบในห้องปฏิบัติการออกไปสู่ฟาร์มและไปสู่ผู้บริโภค ”

               ปัจจุบัน OverDaBlue ได้วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตสาหร่ายทางเลือก  ซึ่งเป็น Core Technology ของบริษัท   และนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสาหร่ายสไปรูลินา  คือ  Wild Algae™ และ Wild Algae – Spirucal™ 

                โดย  Wild Algae   คือผลิตภัณฑ์สาหร่ายสไปรูลินาที่ได้จากการเลี้ยงสาหร่ายในสภาพที่จำลองสภาพระบบนิเวศตามธรรมชาติของสาหร่ายในเชิงอุตสาหกรรม  ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขข้อบังคับทางการผลิตวัตถุดิบอาหาร   จากการศึกษาพบว่า Wild Algae  มีฤทธิ์ทางชีวภาพที่สูงกว่า และมีความเป็นพิษระดับเซลล์น้อยกว่าสาหร่ายสไปรูลินาที่เลี้ยงด้วยสูตรอาหารสังเคราะห์เคมี 

               ส่วน Spirucal  เป็นผลิตภัณฑ์ลูกของ Wild Algae  ซึ่ง OverDaBlue นอกจากจะสามารถผลิต Wild Algae  ได้แล้ว  ยังมีเทคโนโลยีขั้นที่สองที่สามารถเลี้ยง Wild Algae  ต่อเนื่องเพื่อให้สาหร่ายสะสมแร่ธาตุตามธรรมชาติแต่ในปริมาณมากขึ้น เช่น แคลเซียม    Spirucal จึงเป็นผลิตภัณฑ์สาหร่ายสไปรูลินาที่มีความพิเศษตรงที่มีปริมาณแคลเซียมสูงกว่าสาหร่ายสไปรูลินาปกติ  ซึ่งนอกจากจะให้คุณค่าของสาหร่ายสไปรูลินาตามธรรมชาติแล้ว ยังให้แคลเซียมในปริมาณสูง

               “ จากการศึกษาในห้องปฏิบัติการพบว่าแคลเซียมจาก Spirucal  มีความสามารถในการดูดซึมโดยเข้าสู่ร่างกายได้ดีเทียบเท่ากับนม    สามารถเป็นทางเลือกอาหารเสริมที่เป็นอาหารตามธรรมชาติไม่มีการดัดแปลง (whole food) ที่เป็น superfood และเป็นอาหาร vegan ผู้บริโภคสามารถรับประทานเป็นอาหารเสริมแคลเซียมโดยตรง หรือเป็นส่วนผสมในมื้ออาหารปกติ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตในการบริโภคอาหาร เพื่อให้ได้รับแคลเซียมเพียงพอในแต่ละวัน”

               ผลิตภัณฑ์สามารถแปรรูปได้หลายรูปแบบ ทั้งอาหารเสริมพร้อมบริโภคโดยตรง  เช่น เป็นเม็ดแคปซูล ขนมกรุบกรอบ หรือเป็นอาหารที่ทานคู่กับมื้ออาหารในชีวิตประจำวัน เช่น ผงโรยข้าว 

               ปัจจุบัน Spirucal  ในฐานะวัตถุดิบจากสาหร่าย เป็นผลิตภัณฑ์ที่พร้อมเข้าสู่ธุรกิจแบบ B2B และอยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ต้นแบบแบบ B2C

               ผศ.ดร.พันธุ์วงค์    กล่าวอีกว่า  บริษัทเริ่มทำงานร่วมกับเกษตรกรในท้องถิ่น ในฐานะของผู้สนับสนุนทางเทคโนโลยี และ mentor เพื่อให้เกษตรกรสามารถผลิตผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่มีคุณภาพ สามารถส่งต่อคุณค่าผลิตภัณฑ์นี้  ไปยังผู้ประกอบการที่มีความเข้าใจในผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ที่ต้องการพัฒนาแบรนด์ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมของตัวเอง หรือ partnered ingredient traders เพื่อทำตลาดได้ทั้งในและต่างประเทศ

               นอกจากนี้  OverDaBlue ยังดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบให้เป็น finished goods ต้นแบบได้เช่นกัน โดยจะมุ่งเน้นขายผลิตภัณฑ์แบบ wholesale ให้กับผู้ประกอบการที่สนใจนำไปขายยังลูกค้าปลายทาง

               ล่าสุด   OverDaBlue เป็น 1 ใน 10 บริษัทสตาร์ทอัพจาก Forefood accerelator โดย Food Innopolis  ที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และพันธมิตร ในการนำผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากสาหร่ายสไปรูลินา  คือ  Wild Algae™ และ Wild Algae – Spirucal™   ไปนำเสนอต่อผู้สนใจและนักลงทุนในงาน Thailand’s Taste of Tomorrow 2024 ณ Riverside Studios กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่  12 มิถุนายน ที่ผ่านมา

                การจัดงานดังกล่าวถือเป็นมิติใหม่ของการนำเสนอนวัตกรรมอาหารผ่านสื่อสร้างสรรค์  โดยเป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการการทดสอบแพลตฟอร์มส่งเสริมการตลาดสำหรับธุรกิจนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคตสู่การเติบโตแบบก้าวกระโดดในตลาดโลก”  ที่ บพข.  ร่วมกับ แพลตฟอร์มเร่งรัดการเติบโตทางธุรกิจ หรือ FOREFOOD Business Acceleration Platform for Food Tech Startups & Spinoffs เมืองนวัตกรรมอาหาร ( Food Innopolis ) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โครงการจัดตั้งศูนย์การศึกษาด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปวิทยาการอาหารนานาชาติ (ศกศอ.) หรือ International Gastronomy Tourism Centre (iGTC) คณะพัฒนาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยแม่โจ้ หน่วยวิจัยทางประสาทสัมผัสและผู้บริโภคแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (KUSCR) คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์   สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) และภาคเอกชนคือหอการค้าจังหวัดจันทบุรี  บริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ จำกัด (Greyhound Café) และ บริษัท ซิลพิน เอเชีย จำกัด (Silpin Asia Co., Ltd.) จัดทำขึ้น  เพื่อเร่งขับเคลื่อนงานวิจัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเชิงลึกออกสู่เชิงพาณิชย์  รวมทั้งมุ่งสนับสนุน และส่งเสริมให้สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอาหารไทยเกิดการพัฒนาและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในตลาดโลก.