เริ่มแล้ว! 2 งานใหญ่แห่งวงการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่ปีนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำมาจัดพร้อมกันที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
งานแรกก็คือ “อว.แฟร์ 2025 “ หรือ “มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ วิจัย และนวัตกรรม (อววน.) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนด้วยพลังสหวิทยาการ” ที่กระทรวงอว. จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 และอีกงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2568” หรือ “NST Fair 2025” งานที่จัดต่อเนื่องมานานถึง 20 ปี และเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นงานระดับประเทศที่จัดในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี เนื่องจาก 18 สิงหาคม เป็นวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

ภายในพิธีเปิด 9 สิงหาคม 2568 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า กระทรวง อว. มุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบาย “สร้างปัญญา เปิดโอกาส สร้างอนาคตไทย” ให้เป็นรูปธรรมผ่าน 2 ภารกิจหลัก คือ การพัฒนากำลังคนอย่างเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ยกระดับวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนประเทศด้วยองค์ความรู้ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการจัดงาน อว.แฟร์ 2025 : Creators of Tomorrow และงาน NST fair 2025 : Science in Action! For Sustainable Communities
และแสดงให้เห็นถึงการนำนโยบายทั้ง 2 ด้าน มาสร้างเป็นเวทีที่มากกว่านิทรรศการและงานเสวนาวิชาการ แต่เป็นพื้นที่ที่จุดประกายให้คนไทยทุกช่วงวัยได้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์นำไปสู่การลงมือทำ พร้อมเปิดโอกาสให้เยาวชน นักวิจัย ผู้ประกอบการ และประชาชนทุกคนได้เริ่มสร้างอนาคตไทยด้วยพลังของทั้งศาสตร์และศิลป์ผสานเข้าด้วยกันจนเกิดเป็น “นวัตกรรม”
“ นี่ไม่ใช่เพียงการจัดงาน แต่คือ การออกแบบประเทศไทยในเวอร์ชันที่ดีขึ้น ผ่านพลังของการคิดสร้างสรรค์ และลงมือทำ ขอเชิญชวนประชาชนทุกคน มาร่วมค้นหาแรงบันดาลใจ มาร่วม ‘คิดสร้างสรรค์’ และร่วม ‘สร้างอนาคตไทย’ ไปด้วยกัน”

ด้าน ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. กล่าวว่า ทั้ง 2 งานมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอผลงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวง อว. และภาคีเครือข่ายด้านอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมกว่า 200 หน่วยงาน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากำลังในระดับอุดมศึกษาในทุกสาขา การแสดงศักยภาพของหน่วยงานวิจัยต่างๆ เพื่อให้เห็นศักยภาพของวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ และทำให้คนไทยได้เห็นความสำคัญของการพัฒนาสหวิทยาการ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก

สำหรับการจัดงาน อว.แฟร์ 2025 ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Creators of Tomorrow : คิดสร้างสรรค์ Kids คิดสร้างอนาคต” ซึ่งสะท้อนเจตนารมณ์ตามนโยบายของท่านรัฐมนตรีฯ ที่มุ่งพัฒนาอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เป็นกลไกหลักในการพัฒนาประเทศ ภายใต้พื้นที่กว่า 23,000 ตารางเมตร ของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น G อว.แฟร์ 2025 จึงเป็น “พื้นที่แห่งพลังสร้างสรรค์” ที่รวมไฮไลต์ 7 โซนสำคัญ ที่สะท้อนบทบาทของ อว. ทั้งด้านการเรียนรู้ การพัฒนาคน การส่งเสริมนวัตกรรม การยกระดับคุณภาพชีวิต และ Soft Power ของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Workshop สัมมนาวิชาการ กว่า 130 หัวข้อที่ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงและเทรนด์ของโลก

มีการจัดแสดงนิทรรศการไฮไลต์ เช่น นิทรรศการเรือสำรวจขั้วโลก “Xue Long II” เรือตัดน้ำแข็งล้ำยุคจากจีนนักวิจัยไทยใช้สำรวจขั้วโลก, แว่น VR ยานยนต์ ทะลุมิติ สัมผัสโลกวิทย์ในฝันผ่านประสบการณ์เสมือนจริง, สนามสอบ TCAS เสมือนจริง เตรียมพร้อมการสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยการสอบจริง รู้ผลสอบทันที พร้อมเทคนิคการแก้โจทย์ข้อสอบ A-Level

นอกจากนี้ มีผลงานไฮไลต์ที่น่าสนใจจากหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทย อาทิ เช่น การจัดแสดง “ชิ้นส่วนดาวเคราะห์น้อยริวกู” ของจริงจากห้วงอวกาศ ที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. (NARIT) ร่วมกับ องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) นำมาจัดแสดงนอกประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย

โดยดาวเคราะห์น้อยริวกู อยู่ในกลุ่มดาวเคราะห์น้อยใกล้โลก เชื่อกันว่าเป็นวัตถุโบราณที่หลงเหลือจากการก่อตัวของระบบสุริยะ และมีองค์ประกอบของสารอินทรีย์และน้ำ จึงเป็นเป้าหมายสำคัญของการศึกษาเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโลกและสิ่งมีชีวิต ชมได้บูธนิทรรศการ NARIT ที่ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ASTRONOMY+” เมื่อ “ดาราศาสตร์เป็นมากกว่าการดูดาว” ในบูธนี้ ยังจัดแสดงชิ้นส่วน “อุกกาบาตแคมโป เดล เซียโล” อุกกาบาตเหล็กของจริง ที่ตกมาสู่พื้นโลกเมื่อประมาณ 4,000-5,000 ปีที่แล้ว ณ ประเทศอาร์เจนตินา และ CE-7 MATCH และ CE-8 ALIGN อุปกรณ์วิจัยวิทยาศาสตร์ของไทยที่จะส่งไปกับภารกิจฉางเอ๋อ 7 และ 8 ภายใต้โครงการ International Lunar Research Station (ILRS)

การนำเสนอการเรียนรู้การบริหารจัดการเมืองผ่าน “Bangkok Road” บอร์ดเกมยักษ์ ที่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดขึ้น ในนิทรรศการ S&T for Sustainable Thailand: นวัตกรรมลดความเหลื่อมล้ำ สู่ความยั่งยืนจริงผ่านเกมบอร์ดยักษ์ Traffy Fondue x กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการเข้าใจปัญหาเมืองแบบสนุก โดยชมการสาธิตเกมกระดานขนาดใหญ่ที่จำลองเมืองกรุงเทพฯ ขึ้นมา ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็นนักพัฒนาเมืองที่ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเมือง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขยะ, น้ำท่วม, การจราจร หรือจุดที่ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น เช่น ทางเท้าชำรุด โดยมีเป้าหมายคือการทำให้เมืองน่าอยู่ยิ่งขึ้น โดยกรุงเทพมหานคร (กทม.) ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม Traffy Fondue ที่นักวิจัย สวทช.พัฒนาขึ้น ในหลายมิติ เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการปัญหาเมืองและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ประชาชนอย่างครอบคลุม

ชมความล้ำสมัยของเทคโนโลยีอวกาศ ที่ GISTDA หรือ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ขนทัพห้องปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีอวกาศ และห้องปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ มาไว้ในงาน พร้อมด้วยเหล่าวิศวกรดาวเทียม นักวิจัย และนักภูมิสารสนเทศ ที่มานั่งทำงานจริงๆ ในบูธ ภายใต้แนวคิด “Space Tech. for better life” เพราะเราเชื่อเสมอว่าเทคโนโลยีอวกาศเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ทุกคุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้น ด้วยการประยุกต์ใช้ผ่านนวัตกรรมและการวิจัยอันทรงคุณค่า

ขณะที่กรมวิทยาศาสตร์บริการ หรือ วศ. จัดแสดงนิทรรศการนำเสนอผลงานและบริการเด่นด้านสอบเทียบภายใต้แนวคิด “เที่ยงตรงทุกองศา” พร้อมกิจกรรมให้บริการ สอบเทียบเครื่องมือวัด ฟรี! ทั้งเครื่องวัดความดันโลหิตดิจิทัล และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนผู้รับบริการสามารถใช้เครื่องมือวัดได้อย่างถูกต้อง

ส่วนหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ หรือ บพข. นำเสนอผลงานวิจัยสุดยอดนวัตกรรมที่ผสมผสานความเป็นไทยกับเทคโนโลยีล้ำๆ จากการสนับสนุนทุนโดย บพข. ที่จัดขึ้น ภายใต้แนวความคิด “นวัตกรรมจากวิถีไทย” อาทิ Thai Martial Art Muay Thai จำลองสนามมวยไทย พร้อมกิจกรรมอินเทอร์แอคทีฟ เช่น เป้าซ้อมมวยไทยเทคโนโลยี IoT และเกมมวยไทยเวิร์ส รวมถึง เกม Mythophobia’ ซึ่งเป็นเกมผีอาเซียนในจักรวาลนฤมิตที่นำเสนอเรื่องราวผ่านเทคนิค Immersive Room Experience และ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ หรือ สสน. โชว์ ThaiWater App แอปพลิเคชันจัดการน้ำอัจฉริยะ ที่ใช้งานจริงได้ทุกวัน
…นี่แค่ส่วนหนึ่งของความน่าสนใจ ยังมีอีกหลายบูธในอว.แฟร์ ที่รอให้ไปชม

ส่วนงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2568 ที่เรียกความสนใจจากน้อง ๆ เยาวชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากตั้งแต่วันแรก กระทรวง อว. ได้ระดมความร่วมมือจากหน่วยงานในสังกัด พร้อมทั้งผนึกกำลังกับ 8 ประเทศ และ 97 หน่วยงาน จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “Science in Action! For Sustainable Communities” บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสวิทยาศาสตร์แบบลงมือจริง คิดจริง สนุกจริง อาทิ นิทรรศการ Quantum Quest: ควอนตัมเปลี่ยนโลก, นิทรรศการ Brain Inside Out: เปิดโลกวิทยาศาสตร์แห่งสมองสุดอัศจรรย์, นิทรรศการ Mystery of Svalbard: คลังเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต, นิทรรศการ Little Inventor: ดินแดนนักประดิษฐ์ตัวน้อย, นิทรรศการจากหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานต่างประเทศ สถาบัน/สถานศึกษา และหน่วยงานเอกชน ขณะเดียวกัน ยังมีกิจกรรมวิทยาศาสตร์อีกมากมายให้เยาวชนได้ร่วมสนุกอีกด้วย

นอกจากนี้ ในพิธีเปิดงาน “อว.แฟร์ 2025” และ “NST Fair 2025” ได้มีการมอบรางวัล Prime Minister’s Science Award 2025 โดย องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเชิดชูเกียรติเยาวชนที่ได้ทำคุณประโยชน์และเป็นตัวอย่างอันดีด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม พร้อมทั้งเชิดชูเกียรติและเป็นกำลังใจให้แก่ครูที่อุทิศตนอย่างต่อเนื่องในการส่งเสริมการพัฒนาเยาวชนให้มีความสนใจด้านวิทยาศาสตร์
ผู้ที่สนใจ สามารถร่วมงาน “อว.แฟร์ 2025” และ “NST Fair 2025” ได้ระหว่างวันที่ 9 – 17 สิงหาคม 2568 โดย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.mhesifair.com และเฟซบุ๊ก www.facebook.com/MHESIThailand
