แสนสิริเผยยอดขาย 9 เดือน 39,000 ล้าน โค้งสุดท้ายเปิด 7 โครงการใหม่มูลค่า 18,000 ล้าน

Real Estate

แสนสิริเผยยอดขาย 9 เดือนแรก ทะลุ 39,000 ล้านบาท  คิดเป็น 74% จากเป้าทั้งปี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวของปีก่อน ระบุ 9 เดือน Sold Out รวม 19 โครงการ มูลค่า 21,000 ล้านบาท  Backlog แกร่ง 23,000 ล้านบาท เป็นยอดรับรู้รายได้ในปีนี้ถึง 50% สัญญาณการเติบโตที่มั่นคง เร่งเครื่องไตรมาส 4 เปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่า 18,000 ล้านบาท ลุยเปิดตัว ‘จตุโชติ’ คอมมูนิตี้ ชิงส่วนแบ่งตลาดในโซนเหนือของกรุงเทพฯ  

            นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยยอดขาย 9 เดือนแรก (สิ้นสุด 30 กันยายน 2568) ว่า บริษัทสามารถทำยอดขายได้ตามแผนงานที่ 39,000 ล้านบาท คิดเป็น 74% ของเป้ายอดขายรวมในปี 2568 ที่ตั้งไว้ 53,000 ล้านบาท แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเผชิญความท้าทาย แต่แสนสิริกลับสร้างยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยมีกลุ่มคอนโดมิเนียมเป็นแรงหนุนสำคัญ จากการเปิดตัวโครงการใหม่ที่ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด

ยอดขายพุ่ง- Backlog แกร่ง 23,000 ล้าน  

            ความสำเร็จนี้สะท้อนจากกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมของโครงการที่เปิดขายในปัจจุบัน รวมถึงโครงการใหม่ที่เปิดเพิ่มเติมในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม โดยคอนโดเปิดใหม่อย่าง วาลเลส เฮาส์, ไวด์เด็น บาย แสนสิริ และเซลฟ์ บาย แสนสิริ ได้รับการตอบรับดีเกินคาด สามารถทำยอดขายรวมได้ถึง 3,400 ล้านบาท เช่นเดียวกับเศรษฐสิริ เกาะแก้ว รีทรีต จ.ภูเก็ต ที่สร้างปรากฏการณ์สร้างยอดขายรอบ VVIP ไปกว่า 30% ของยูนิตทั้งหมดตั้งแต่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ รวมถึงการขายบ้านตัวอย่าง ซึ่งสร้างยอดขายได้กว่า 1,000 ล้านบาท

                นอกจากยอดขายที่เติบโตโดดเด่นแล้ว บริษัทยังมี Backlog (ยอดขายรอโอน) สูงกว่า 23,000 ล้านบาท
คาดว่าจะสามารถรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ได้ถึงราว 50% โดยมีโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี เพื่อสนับสนุนยอดขายและรับรู้รายได้ทันที 7 โครงการ มูลค่ารวม 9,600 ล้านบาท (เดอะ เบส เออร์เบิร์น พระราม 9 (เปิดใหม่พร้อมอยู่), โฟล บาย แสนสิริ, ดีคอนโด คาล์ม รามคำแหง 40, เดอะ มูฟ พอว์ บางแค, แคนวาส เชิงทะเล ภูเก็ต, เมคิน เฮาส์ เชียงใหม่ และดีคอนโด แคมปัส ขอนแก่น)

                ทั้งนี้ ในรอบ 9 เดือนSold Out ไปแล้วถึง 19 โครงการ มูลค่า 21,000 ล้านบาท กว่า 60% อยู่ในกลุ่มพรีเมียม และยังมีโครงการที่จ่อคิว Sold Out อีกกว่า 10 โครงการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง

กลยุทธ์เชิงรุก รักษาระดับการเติบโต

                ภายใต้ภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวจากปัจจัยต่างๆ แสนสิริยังคงดำเนินแผนธุรกิจด้วยความรัดกุมควบคู่ไปกับความพร้อมที่จะปรับตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีการบริหารจัดการกระแสเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การปรับจำนวนบ้านพร้อมขายให้สอดคล้องกับอัตราการขายเพื่อบริหารกระแสเงินสดอย่างเหมาะสม และการกระจายพอร์ตสินค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ปัจจุบันมีโครงการพร้อมขายกว่า 135 โครงการ และที่สำคัญยังให้ความสำคัญกับขยายโอกาสในการลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ๆ เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน 

                แม้จะต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายและความต้องการในตลาดที่ชะลอตัว แต่ด้วยความได้เปรียบด้านแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ฐานะทางการเงินที่มั่นคง การดำเนินงานเชิงรุก และเป็นผู้นำด้านดีไซน์ คุณภาพโครงการ และบริการหลังการขาย ตลอดจนสินค้าที่หลากหลายคาดว่าแสนสิริจะสามารถรักษาผลการดำเนินงานได้อย่างยั่งยืน  

            ในไตรมาสสุดท้ายของปี แสนสิริเตรียมเปิดตัว 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 18,000 ล้านบาท อาทิ เศรษฐสิริ เกาะแก้ว รีทรีต, บุราสิริ จตุโชติ, สราญสิริ จตุโชติ และคอนโดมิเนียมใหม่บนทำเล กะทู้ ภูเก็ต เพื่อรองรับความต้องการในตลาดเมืองท่องเที่ยว

            เร็วๆ นี้แสนสิริเตรียมเผยโฉม Sansiri Community แห่งใหม่ที่จตุโชติ ชิงเรียลดีมานด์กรุงเทพโซนเหนือ บนพื้นที่ ขนาดใหญ่ 185 ไร่ กับ 2 โครงการแรกคือ บุราสิริ จตุโชติ และสราญสิริ จตุโชติ เปิดพรีเซลล์พร้อมกันในวันที่ 4-5 ตุลาคมนี้