วว. NIA มรภ.กาญจนบุรี และบริษัทเลม่อนโกลด์ฯ ร่วมสนับสนุนเศรษฐกิจ BCG พัฒนาผลิตภัณฑสเปรยใหความสดชื่น บํารุงหนาจากผลผลิตพลอยไดกระบวนการผลิตน้ำมะนาวโดยใชเทคโนโลยีไมโครอิมัลชั่น

มะนาว (Lime) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Citrus aurantifolia (Christm. et Panz.) Swing หรือ Citrus Aurantifolia Swing เป็นพืชสวน ซึ่งในอดีตเป็นไม้ที่ปลูกไว้เพื่อใช้ผลในการนำมาปรุงรสอาหาร ปัจจุบันการบริโภคมะนาวได้พัฒนาไปสู่การเป็นเครื่องดื่ม เป็นวัตถุปรุงรสทั้งในครัวเรือนและในอุตสาหกรรมอาหาร
แต่ราคาจำหน่ายผลมะนาวมีความผันผวน โดยมีทั้งช่วงราคาแพงและราคาที่ถูกมาก ซึ่งส่งผลกระทบให้เกษตรกรขายมะนาวได้ในราคาต่ำ เกิดภาวะมะนาวล้นตลาด ดังนั้นอุตสาหกรรมผลิตน้ำมะนาวแช่แข็งจึงมีบทบาทในการช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถจำหน่ายได้ในราคาเหมาะสม แต่ในกระบวนการผลิตมะนาวแช่แข็ง จะมีกากเปลือกมะนาวเป็นของเหลือทิ้ง ที่เป็นปัญหาและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและ Climate change
ดร.ขนิษฐา ชวนะนรเศรษฐ์ นักวิจัย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร (ศนส.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในฐานะที่ปรึกษาโครงการหลัก ได้เล็งเห็นความสำคัญในการแก้ปัญหาและเพิ่มมูลค่าเปลือกมะนาวและไลม์ไฮโดรซอล ที่เป็นผลผลิตพลอยได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกมะนาว นำมาเป็นวัตถุดิบในการพัฒนาต่อยอดสู่การผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางใหม่ที่ได้มาตรฐานสากล

โดยมีดร.สิทธิพงศ์ สรเดช นักวิจัยอาวุโส ศนส.วว.เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีไมโครอิมัลชั่นและเครื่องสำอาง จึงได้จับมือกับภาคอุตสาหกรรม นายวิวัฒน์ พริ้งจำรัส กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลม่อนโกลด์ (แอล. เอ็ม. จี) จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจด้านอุตสาหกรรมผลิตน้ำมะนาวแช่แข็ง ณ ตำบลท่าไม้ลวก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ปี พ.ศ. 2568 ภายใต้การดำเนิน “โครงการการพัฒนาผลิตภัณฑ์สเปรย์ให้ความสดชื่นและบํารุงหน้าจากผลผลิตพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำมะนาวโดยใช้เทคโนโลยีไมโครอิมัลชั่น” โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคม ประจำพื้นที่ภาคตะวันตก ปีงบประมาณ 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี

ผลสำเร็จของโครงการฯ ได้พัฒนา “ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต้นแบบจากนวัตกรรมไมโครอิมัลชั่นของไลม์ไฮโดรซอลและน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกมะนาวผสมผสานกับน้ำมะนาว” ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและพื้นที่ภาคตะวันตกของประเทศไทย มีช่องทางในการจำหน่ายผลผลิตมะนาวเข้าสู่ท้องตลาดและในกระบวนการผลิตน้ำมะนาวมากขึ้น เป็นการเพิ่มมูลค่าและห่วงโซ่คุณค่าของมะนาวและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางด้วย
โครงการการพัฒนาผลิตภัณฑ์สเปรย์ฯ เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาของประเทศในด้านปัญหามะนาวราคาตกต่ำ แก้ปัญหาและเพิ่มมูลค่าเปลือกมะนาว รวมทั้งการใช้ประโยชน์ผลผลิตพลอยได้ของวัตถุดิบน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกมะนาว น้ำมะนาว และ “ไลม์ ไฮโดรซอล” จากกระบวนการผลิต โดยใช้เทคโนโลยีไมโครอิมัลชั่น ได้ผลผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Facial Mist ที่มีคุณภาพจากนวัตกรรมไมโครอิมัลชั่น

ผลการวิเคราะห์ทดสอบวัตถุดิบหลักตามมาตรฐานสากลของเครื่องสำอาง Certificate of analysis การทดสอบปนเปื้อนจุลินทรีย์และโลหะหนักผ่านมาตรฐานเครื่องสำอาง ผลการวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือ GC-MS และ HPLC ไม่พบสารเบอร์เกปเทนและองค์ประกอบกลุ่มสารคูมารินที่จะก่อการแพ้จากกระบวนการ Photo-oxidation ในไลม์ไฮโดรซอลและน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกมะนาวตามมาตรฐาน สมอ. และการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีไมโครอิมัลชั่นที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวของน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกมะนาว ไลม์ไฮโดรซอลและน้ำมะนาวที่มีคุณสมบัติด้านความงามจากผลการทดสอบการกระตุ้นคอลลาเจน การยับยั้งเอ็นไซม์ไทโรซิเนส

โดยสูตรตำรับผลิตภัณฑ์มีความคงตัว และมีการทดสอบความปลอดภัยในอาสาสมัครจำนวน 30 คน ผลิตภัณฑ์ได้มีใบรับจดแจ้งเลขที่ 76-1-680035265 วันที่ 29 ตุลาคม 2568 รวมระยะเวลา 3 ปี มีความพร้อมเชิงพาณิชย์ในการเข้าสู่ตลาดของประเทศไทยและตลาดโลก ทำให้ผลผลิตจากผลมะนาวเกิดการเพิ่มมูลค่าได้ ส่งผลกระทบในสังคม เศรษฐกิจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสิ่งแวดล้อม สนับสนุน Zero waste และเศรษฐกิจ BCG ของประเทศไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม เป็นการสานต่อและต่อยอดนวัตกรรมทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ลดต้นทุนจากการซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศ

การคาดการณ์จากการดำเนินงานตามรูปแบบของโครงการฯ จะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชนได้โดยประมาณปีละ 3,000,000 บาท/ปี ลดรายจ่ายในการกำจัดเปลือกมะนาวเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตได้โดยประมาณ 500,000 บาท/ปี นับเป็นการสร้าง “soft power” ให้กับชุมชนและประเทศได้อย่างสมบูรณ์ จากการใช้ประโยชน์ของมะนาวได้อย่างหลากหลาย ด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าไปเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งในด้านความงาม การดูแลสุขภาพ อาหาร ปศุสัตว์ รวมทั้งวัสดุศาสตร์ ซึ่งเป็นการนำความรู้และการใช้ประโยชน์ครบวงจรลงสู่ชุมชนและสังคม
