กรุงเทพฯ, 22 พฤศจิกายน 2568 – จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลให้หาดใหญ่ จังหวัดสงขลาได้รับวิกฤตอุทกภัย และพื้นที่ภาคใต้ได้รับผลกระทบหลายจุด และรวมถึงพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังเตรียมรับมือน้ำทะลักท่วม เช่น จังหวัดตรัง พัทลุง สตูล ยะลา และปัตตานี กระทบต่อการดำเนินชีวิต การเดินทาง และการติดต่อสื่อสารของประชาชนหลายพื้นที่ ทรู คอร์ปอเรชั่น ห่วงใยและตระหนักถึงความเดือดร้อนของลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบภัย จึงเร่งออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนเบื้องต้นทันที มอบเน็ตฟรี 10 GB ขยายวันใช้งานผ่านเครือข่ายทรูมูฟ เอช และ ดีแทค สำหรับลูกค้าในพื้นที่หาดใหญ่ เพื่อสนับสนุนการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง และลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงประสบวิกฤต พร้อมทั้งนำ “โมเดลทุ่งสง” ที่ปฏิบัติภารกิจกู้สัญญาณการสื่อสารจากน้ำท่วมที่ จ.นครศรีธรรมราช ขยายแผนเข้าดูแลสัญญาณการสื่อสารในพื้นที่หาดใหญ่ และภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
มาตรการทรู คอร์ปอเรชั่น ช่วยเหลือลูกค้าทั้งแบบรายเดือน (Postpaid) และเติมเงิน (Prepaid) โดยมุ่งเน้นให้ลูกค้าทรูมูฟ เอช และดีแทค ที่อยู่ในพื้นที่หาดใหญ่ จ.สงขลา ยังคงสามารถติดต่อสื่อสาร ติดตามสถานการณ์ ขอความช่วยเหลือ และประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่องในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ลูกค้าเติมเงิน (Prepaid)
- มอบเน็ตฟรี 10 GB ใช้งานได้ 7 วัน
- ลูกค้าสามารถกดรับสิทธิ์ได้ที่ กด*900*7162# โทรออก ภายในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568
- ขยายวันใช้งานเพิ่มอีก 10 วัน เพื่อป้องกันการถูกระงับบริการ
- ตรวจสอบวันใช้งานลูกค้าทรูมูฟ เอช กด *123# (ฟรี) ลูกค้าดีแทค กด *101# (ฟรี)
ลูกค้ารายเดือน (Postpaid)
- มอบเน็ตฟรี 10 GB ใช้งานได้ 7 วัน
- ลูกค้าสามารถกดรับสิทธิ์ได้ที่ กด*900*7162# โทรออก ภายในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568
- ขยายระยะเวลาชำระค่าบริการออกไปจนถึง 30 พฤศจิกายน 2568
ชู “โมเดลทุ่งสง” ขยายแผนรับมือน้ำท่วมภาคใต้ ย้ำบทบาททรู UP สัญญาณทุกสถานการณ์
นอกจากมาตรการด้านสิทธิประโยชน์ลูกค้าแล้ว ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังได้เพิ่มมาตรการฉุกเฉินในการติดตามสถานการณ์โครงข่ายในพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งภาคใต้ พร้อมเตรียมความพร้อมทีมวิศวกรและอุปกรณ์สำรอง เพื่อรักษาคุณภาพสัญญาณให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง สนับสนุนการติดต่อสื่อสารของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่น้ำท่วม

“โมเดลทุ่งสง” คือแนวทางที่ทรู คอร์ปอเรชั่นใช้ดูแลโครงข่ายในภาวะน้ำท่วมพื้นที่ อำเภอทุ่งสง และอีกหลายอำเภอของ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเร่งส่งทีมวิศวกรและทีมเน็ตเวิร์กลงพื้นที่ตรวจเช็กและปกป้องสายไฟเบอร์เส้นหลักที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของโครงข่ายก่อนเป็นลำดับแรก จากนั้นเร่งดูแลสถานีฐานและจุดสื่อสารสำคัญในพื้นที่น้ำท่วมและจุดเสี่ยงน้ำป่าทะลัก ตามแผนฉุกเฉิน เพื่อให้มือถือและเน็ตบ้านของประชาชนยังใช้งานได้ต่อเนื่อง แม้อยู่ท่ามกลางสถานการณ์อพยพและการประสานงานช่วยเหลือจากทุกหน่วยงานได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังมีมาตรการฉุกเฉินเสริมความพร้อมเครือข่าย ได้แก่ การเตรียมเครื่องปั่นไฟ น้ำมันสำรอง และแบตเตอรี่สำรองให้สถานีฐานในพื้นที่เสี่ยงไฟฟ้าดับจากน้ำท่วมโดยเฉพาะหาดใหญ่ การจัดรถโมบายล์สถานีฐานเคลื่อนที่เร็ว (Cell on Wheels: COW) เสริมสัญญาณในจุดวิกฤต การเตรียมรถ 4WD และเรือท้องแบนเข้าถึงพื้นที่ประสบภัย การจัดทีมซ่อมบำรุงฉุกเฉินพร้อมอุปกรณ์สำรองดูแลระบบสื่อสารให้ทำงานต่อเนื่อง การประสานงานกับหน่วยงานรัฐและเอกชนเพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชน และการใช้ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ BNIC ร่วมกับระบบ AI Network Monitoring ดูแลและบริหารเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง ทรู คอร์ปอเรชั่น ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวหาดใหญ่และชาวภาคใต้ทุกคน พร้อมดูแลโครงข่ายสื่อสารทั้งมือถือและอินเทอร์เน็ตบ้านให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนยังติดต่อกันได้ รับข่าวสารสำคัญ และประสานงานช่วยเหลือกันได้แม้ในช่วงวิกฤต นอกจากนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่นพร้อมทำงานใกล้ชิดกับ กสทช. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมสนับสนุนการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกสถานการณ์
