น้ำท่วมหาดใหญ่สะท้อนข้อจำกัดและความท้าทายใหม่ ต้องเร่งปรับการทำนายฝนและระบบเตือนภัยเชิงพื้นที่

News Update

               ทีมวิจัยแผนงานน้ำมั่นคงฯ รายงานสถานการณ์มหาอุทกภัยหาดใหญ่และสงขลา สะท้อนข้อจำกัดเชิงโครงสร้างและความท้าทายใหม่จากสภาพภูมิอากาศแบบใหม่ที่ผันผวนมากขึ้น ขณะที่ ผอ.แผนงานชี้ต้องปรับปรุงด้วยการวิจัยเพื่อทำนายฝนแบบใหม่ และระบบการเตือนภัยเชิงพื้นที่ที่เฉพาะมากขึ้น รวมถึงกลไกโครงสร้างการบริหารภัยพิบัติแบบบูรณาการ

               รศ. ดร.สุจริต  คูณธนกุลวงศ์  ผู้อำนวยการแผนงานการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรมตามเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน. น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ใน 10 จังหวัด เปิดเผยถึงมหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลาและหาดใหญ่ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่วิจัย ว่าได้รับรายงานจาก ผศ. ดร.ณัฐพล แก้วทอง นักวิจัยสังกัดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลา ที่สรุปเหตุการณ์ช่วงระหว่างวันที่ 21–24 พฤศจิกายน 2568 เกิดจากฝนตกหนักสะสมหลายวันทั้งฝั่งทิศตะวันออกและฝั่งทิศใต้ที่มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ฝนทิศตะวันออกตกก่อนและหนักที่สุด ทำให้คลองหวะล้นตลิ่งตั้งแต่คืนวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 และส่งผลต่อเมืองหาดใหญ่ทันที ขณะที่ฝั่งทิศใต้รับฝนตกหนักวันที่ 23–24 พฤศจิกายน 2568 ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองอู่ตะเภาสูงขึ้นพร้อมกันในคืนวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 จนเกิดการซ้อนทับของมวลน้ำสามทิศทางในเวลาใกล้เคียงกัน ระบบระบายน้ำฝั่งตะวันออกที่ยังคงรูปแบบตั้งแต่ปี 2543 ไม่สามารถรองรับปริมาณฝนระดับหลายร้อยมิลลิเมตรต่อวันได้ ต่างจากฝั่งตะวันตกที่มีการปรับปรุงคลองภูมินาถดำริ (คลอง ร.1) แล้ว

               นอกจากนี้สัญญาณฝนแบบแนวปะทะ (torrential rainfall) ซึ่งตกซ้ำตำแหน่งเดิมเป็นเวลานาน ยิ่งทำให้ลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภาอิ่มตัวรวดเร็วและระบายช้า เนื่องจากระดับน้ำในทะเลสาบสงขลามีระดับเพิ่มสูงขึ้นด้วย การเตือนภัยไม่ทันการณ์ ทำให้เห็นความจำเป็นในการพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยที่มีความแม่นยำ โดยอาศัยข้อมูลพยากรณ์ฝนล่วงหน้า 3 วัน และ 7 วันควบคู่กับข้อมูลฝนและระดับน้ำแบบเรียลไทม์ เพื่อใช้เป็นกรอบในการประเมินสถานการณ์ เตือนภัยและบริหารจัดการภัยเชิงรุก อีกทั้งยังสะท้อนทั้งข้อจำกัดเชิงโครงสร้างและความท้าทายใหม่จากสภาพภูมิอากาศแบบใหม่ที่ผันผวนมากขึ้น

                “การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดสงขลาจะต้องปรับปรุงด้วยการวิจัยเพื่อทำนายฝนแบบใหม่ และระบบการเตือนภัยเชิงพื้นที่ที่เฉพาะมากขึ้น รวมถึงกลไกโครงสร้างการบริหารภัยพิบัติแบบบูรณาการ” รศ. ดร.สุจริตกล่าวทิ้งท้าย

ผศ. ดร.ณัฐพล แก้วทอง นักวิจัยสังกัดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลา