มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดการประกวด “สิ่งประดิษฐ์สำหรับคนพิการและผู้สูงอายุระดับนานาชาติ ประจำปี 2568 หรือ Global Student Innovation Challenge (gSIC 2025)” รอบชิงชนะเลิศขึ้น ภายในงานประชุมวิชาการนานาชาติด้านวิศวกรรมฟื้นฟูสมรรถภาพและเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก ครั้งที่ 18 หรือ “i-CREATe 2025”ซึ่งจัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “Empowering Lives: Human-Centered Innovation in Health, Wellness, Aging, and Abilities” ระหว่างวันที่ 24 – 26 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก เพื่อสนองแนวพระราชดำริใน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในการยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการและผู้สูงอายุด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

โดยการประกวด gSIC 2025 ในปีนี้ มีทีมเยาวชนตัวแทนระดับประเทศกว่า 25 ทีม จาก 8 เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ จีน ไชนิสไทเป อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย อียิปต์ สาธารณรัฐเกาหลี และไทย แบ่งเป็น กลุ่มนวัตกรรมการออกแบบ (Design Category) 11 ทีม และ กลุ่มสิ่งประดิษฐ์ด้านเทคโนโลยี (Technology Category) 18 ทีม ซึ่งผู้ชนะเลิศจะได้รับพระราชทานรางวัลจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ และประธานคณะอำนวยการจัดงาน i-CREATe 2025 กล่าวว่า นัยสำคัญของเวที gSIC ต่อสังคมผู้สูงอายุและคนพิการ ไม่ใช่เพียงการแข่งขันเพื่อชิงรางวัล แต่มีเป้าหมายหลักในการลดช่องว่างการเข้าถึงเทคโนโลยี โดยผลงานมุ่งเน้นการแก้ปัญหาที่ผู้สูงอายุและคนพิการต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน อาทิ อุปกรณ์ช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ลดภาระผู้ดูแล เทคโนโลยีสื่อสารทางเลือกสำหรับผู้ป่วยติดเตียง หรืออุปกรณ์ฟื้นฟูสมรรถภาพที่สามารถทำกายภาพบำบัดได้เองที่บ้าน

“สิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดนวัตกรรมทางเลือกที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าสากล ในราคาที่จับต้องได้ ช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าอุปกรณ์ราคาแพงจากต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นการบ่มเพาะนักวิจัยรุ่นใหม่ ให้มีทักษะการคิดเชิงออกแบบที่คำนึงถึงผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง และสร้างความเข้าอกเข้าใจต่อเพื่อนมนุษย์ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดของการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคม ซึ่งที่ผ่านมามีทีมที่เคยผ่านการแข่งขัน นำผลงานและประสบการณ์ที่ได้รับไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ ที่ผ่านมาตรฐานสากลและตั้งเป็นบริษัท Startup ทำให้เกิดความยั่งยืนในการพัฒนา” ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช กล่าว

สำหรับผลการแข่งขันการประกวด gSIC 2025 ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน Global Student Innovation Challenge 2025: ประเภทการออกแบบ รางวัลเหรียญทอง คือ ผลงาน “Shine Beyond the Shadow: บอร์ดเกมเพื่อการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมสำหรับผู้พิการทางสายตา” ผลงานการพัฒนาของ “นางสาวพรีญา กุลยดุลย์ และ นางสาวณภาอัยย์ สุริยาภิวัฒน์” จากโรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจกรุงเทพ และ โรงเรียนบางกอกพัฒนา (ประเทศไทย) โดยเป็นนวัตกรรมบอร์ดเกมที่มุ่งลดอุปสรรคการเข้าถึงสำหรับผู้มีความบกพร่องทางการเห็น โดยเปลี่ยนจากการพึ่งพาการมองเห็นมาเป็น “ระบบสัมผัส” ในการเล่น เกมนี้ออกแบบมาให้ผู้เล่นทุกระดับการมองเห็นสามารถสนุกร่วมกันได้อย่างเท่าเทียม ปัจจุบันมีรูปแบบการเล่น 2 ประเภท คือเกมประกอบรูปร่างและเกมเรียงโดมิโน ซึ่งแบ่งระดับความยากสำหรับมือใหม่และผู้เชี่ยวชาญ นวัตกรรมนี้ไม่เพียงแต่มอบความบันเทิง แต่ยังช่วยพัฒนาทักษะการรู้คิด ทักษะกล้ามเนื้อ และส่งเสริมการเข้าสังคมของผู้พิการทางสายตาอีกด้วย

รางวัลเหรียญเงิน คือ ผลงาน “SANSync: อุปกรณ์สวมใส่เพื่อส่งเสริมการรับรู้ดนตรีผ่านจังหวะและการสัมผัสสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน” โดย “นายนายวรินทร์ ว่องรัตนะไพศาล” จากโรงเรียนวารีเชียงใหม่อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ซึ่ง “SANSync” จะเป็นอุปกรณ์สวมใส่ข้อมืออัจฉริยะที่ช่วยเปิดโลกดนตรีให้แก่ผู้พิการทางการได้ยิน โดยระบบจะทำงานร่วมกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อวิเคราะห์และแปลงจังหวะเพลงเป็น “แรงสั่นสะเทือน” ส่งไปยังข้อมือผู้สวมใส่ ทำให้พวกเขาสามารถรับรู้บีตและร่วมกิจกรรมทางดนตรีกับผู้อื่นได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องใช้การมองเห็นช่วย นวัตกรรมนี้มีจุดเด่นที่ต้นทุนต่ำและรองรับการเชื่อมต่อใช้งานพร้อมกันได้หลายคน จึงเหมาะสำหรับนำไปใช้ทำกิจกรรมในกลุ่มเพื่อน ครอบครัว หรือใช้เป็นสื่อการสอนเรื่องจังหวะในโรงเรียน
และ รางวัลเหรียญทองแดง เป็นทีมจากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ (UNSW Sydney) จากประเทศออสเตรเลีย จากผลงาน “ CommUnity: อุปกรณ์สื่อสารต้นทุนต่ำสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดในพื้นที่ขาดแคลนทรัพยากร อุปกรณ์สื่อสารปรับเปลี่ยนได้สำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการพูด” โดยโครงการ “Community” นำเสนออุปกรณ์สื่อสารต้นทุนต่ำรูปร่างคล้ายหนังสือสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดในพื้นที่ขาดแคลน เพื่อทดแทนบัตรคำกระดาษแบบเดิมที่ไม่ยืดหยุ่น อุปกรณ์นี้มีปุ่มกด 6 หน้าที่สามารถบันทึกเสียงและปรับเปลี่ยนคำศัพท์ได้เองตามภาษาท้องถิ่นและความต้องการของเด็กแต่ละคน ทีมงานออกแบบให้ตัวเครื่องมีความทนทาน ซ่อมแซมได้ง่าย และใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จซ้ำได้เพื่อให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมในชุมชนห่างไกล ช่วยเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ สามารถสื่อสารและเชื่อมต่อกับสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน Global Student Innovation Challenge 2025: ประเภทเทคโนโลยี รางวัลเหรียญทอง คือ ทีมจากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เกาสง ไชนิสไทเป จากผลงาน “ AI-Driven Tongue Vibration Exercise Training System for Dysphagia ระบบฝึกการสั่นสะเทือนลิ้นที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับผู้มีภาวะกลืนลำบาก” นวัตกรรมนี้เป็นระบบฟื้นฟูสำหรับผู้ที่มีภาวะกลืนลำบากและผู้สูงอายุที่มีกล้ามเนื้อลิ้นอ่อนแรง โดยผสานการบริหารลิ้นด้วยอุปกรณ์สั่นสะเทือนเข้ากับระบบ AI ที่ติดตามการเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ อุปกรณ์หลักทำจากซิลิโคนเกรดอาหารที่ปลอดภัย ทำงานร่วมกับระบบวิเคราะห์คลื่นสมองและโปรแกรมฟื้นฟูแบบเกม ผลการศึกษาพบว่าระบบนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของลิ้นและประสิทธิภาพการกลืนได้อย่างมีนัยสำคัญ ถือเป็นมิติใหม่ของการบำบัดด้วยข้อมูลที่แม่นยำและใช้งานง่าย

ส่วนรางวัลเหรียญเงิน เป็นทีมโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย (ประเทศไทย) ที่ประกอบด้วยนายณันธิพฒน์ จิวะสุรัตน์ นายเมธัส ต่างประภา และนายธนากร เอี่ยมรัตนวงศ์ จากผลงาน “ NeuronFRAMES: Full cycle Rehabilitation with Adaptive friendly training for greater Motivation and Engagement System ระบบฟื้นฟูสมรรถภาพแบบครบวงจรพร้อมการฝึกฝนที่เป็นมิตรและปรับเปลี่ยนได้ เพื่อเพิ่มแรงจูงใจและการมีส่วนร่วม” ซึ่งเป็น แพลตฟอร์มฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายบนเว็บไซต์ที่เปลี่ยนการทำกายภาพบำบัดให้กลายเป็นเรื่องสนุกผ่านระบบเกม (Gamification) เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์และความเบื่อหน่ายของผู้ป่วย ระบบมีโหมดการฝึกที่หลากหลายปรับตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ซึ่งจากการทดสอบจริงร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขพบว่าผู้ป่วยมีพัฒนาการทางร่างกายที่ดีขึ้นอย่างวัดผลได้ และมีความรู้สึกสนุกสนานอยากมีส่วนร่วมกับการรักษามากยิ่งขึ้น
และ รางวัลเหรียญทองแดง คือทีมจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติหยางหมิงเจียวทง ไชนิสไทเป จากผลงาน “Digital Twins Centered Human–Exoskeleton Collaboration for Rehabilitation Health” โครงการนี้เสนอแนวคิดล้ำสมัยด้วยการใช้ Digital Twin มาช่วยควบคุมหุ่นยนต์สวมใส่ (Exoskeleton) เพื่อการฟื้นฟูร่างกาย ระบบจะใช้เทคโนโลยีจับการเคลื่อนไหวแบบไร้จุดมาร์กเกอร์เพื่อสร้างแบบจำลองกล้ามเนื้อและกระดูกของผู้ป่วยแต่ละคนอย่างรวดเร็ว แล้วนำไปประมวลผลด้วย AI เพื่อสั่งการให้ชุดหุ่นยนต์ช่วยปรับท่าทางการเดินให้ถูกต้องและเป็นธรรมชาติที่สุด ช่วยลดภาระของกล้ามเนื้อและเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูการเดิน โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาการเดินผิดปกติ

ด้าน ดร.อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สวทช. กล่าวว่า สวทช. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานสำคัญนี้ ซึ่งรวบรวมผู้เชี่ยวชาญ นักนวัตกรรม และผู้ปฏิบัติงานจากทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ขอแสดงความชื่นชมต่อการเติบโตของการมีส่วนร่วมของเยาวชนในการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งนักนวัตกรรมรุ่นใหม่ในประเทศไทยและภูมิภาคกำลังก้าวเข้ามาพร้อมกับโซลูชันที่ผสานความเห็นอกเห็นใจเข้ากับเทคโนโลยี ซึ่งช่วยให้ระบบนิเวศการวิจัยมีความเข้มแข็ง และทำให้เกิดความยั่งยืนในวิศวกรรมฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับคนรุ่นต่อไป
อย่างไรก็ดี i-CREATe ยังเป็นจุดแข็งสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือข้ามพรมแดน เพื่อเชื่อมโยงความคิด แบ่งปันผลการวิจัย และสร้างโอกาสใหม่ ๆ สำหรับการพัฒนาร่วมกัน โดย สวทช. ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อยกระดับและส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้คนผ่านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง

นอกจากการแข่งขัน gSIC ในงาน i-CREATe 2025 ภายในงานประชุม ยังได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกร่วมบรรยายพิเศษเพื่อถ่ายทอดเทรนด์เทคโนโลยีล่าสุดด้านนวัตกรรมสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ อาทิ Professor Guang-Zhong Yang บรรณาธิการผู้ก่อตั้งวารสาร Science Robotics และหัวหน้านักวิทยาศาสตร์สถาบันหุ่นยนต์การแพทย์ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง สาธารณรัฐประชาชนจีน บรรยายหัวข้อ “Robotics for the Ageing Society” นำเสนอบทบาทของหุ่นยนต์ยุคใหม่และวัสดุศาสตร์ในการรองรับสังคมผู้สูงอายุ ทั้งหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดและหุ่นยนต์ฟื้นฟูสมรรถภาพ และ Professor Fernando Ribeiro จากมหาวิทยาลัยมินโญ สาธารณรัฐโปรตุเกส บรรยายหัวข้อ “Robotics for People” โชว์เคสโครงการหุ่นยนต์เพื่อสังคมที่ใช้งานจริง เช่น “CHARMIE” หุ่นยนต์ผู้ช่วยอัจฉริยะในบ้านและโรงพยาบาล และของเล่นดัดแปลงเพื่อเด็กที่มีความบกพร่องทางสมอง (CP)

พร้อมกันนี้ ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการผลงานจากการประกวดสิ่งประดิษฐ์สำหรับคนพิการและผู้สูงอายุระดับนานาชาติ ด้านนวัตกรรมการออกแบบและด้านเทคโนโลยี ประจำปี 2568 นิทรรศการเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก และผลงานการประกวดที่เกิดขึ้นในอดีตจนสามารถพัฒนาเป็นธุรกิจ Startup อีกด้วย.
