26 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ: GISTDA ยกระดับการจัดการภัยพิบัติ โดยนำข้อมูลระดับความลึกของน้ำที่ได้จากการสกัดและติดตามพื้นที่น้ำท่วมจากดาวเทียม มา “Overlay” (ซ้อนทับ) ร่วมกับ Mobile Data ของ AIS ผ่านการวิเคราะห์เชิงลึกทางด้านภูมิสารสนเทศ (Geoinformatics)

การผนวกข้อมูลนี้มีเป้าหมายเพื่อค้นหา “ผู้ประสบภัยตกสำรวจ” ที่ไม่สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ เนื่องจากข้อมูลจากดาวเทียมที่แสดงขอบเขตและระดับความลึกของน้ำเพียงอย่างเดียวไม่สามารถระบุตำแหน่งของประชาชนที่ติดค้างได้
การซ้อนทับข้อมูลทางภูมิสารสนเทศ ถือเป็นกุญแจสำคัญ เพราะช่วยให้เจ้าหน้าที่มองเห็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้น โดยสามารถระบุได้ว่า ในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังสูงนั้น ยังมีกลุ่มคนอาศัยอยู่ตรงจุดใดบ้าง ซึ่งเป็นอันตรายและจำเป็นต้องเข้าช่วยเหลือเร่งด่วน

ทั้งนี้ ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการวิเคราะห์ ถูกนำมาใช้ในการจัดลำดับความสำคัญและวางแผนจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การจัดกลุ่มผู้ติดค้างขนาดเล็กหรือใหญ่ เพื่อเลือกใช้ยานพาหนะกู้ภัย (เรือเล็ก/เรือใหญ่) ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และจำนวนคน
นอกจากนี้ การใช้ Mobile Data ยังช่วยให้สามารถติดตามสถานการณ์ได้ในรูปแบบแทบจะ Real-Time หากจุดสัญญาณเคลื่อนที่ออกจากพื้นที่เสี่ยง หมายความว่าผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลือแล้ว ทำให้ทีมกู้ภัยบริหารจัดการกำลังพลและมุ่งหน้าไปยังจุดที่ยังมีการติดค้างอยู่ได้ทันที โดยไม่เสียเวลาวนหาในจุดเดิม

ความร่วมมือและการใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศผสานเทคโนโลยีการสื่อสารในครั้งนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เทคโนโลยีคือเครื่องมือช่วยชีวิตที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในยามวิกฤต

