ปส.รายงานความคืบหน้าสถานการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ในยูเครน

News Update

ปส.เผยรายงานเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริเซีย   ประเทศยูเครน ซึ่งรัสเซียได้เข้าควบคุมเรียบร้อยแล้ว แต่โรงไฟฟ้ายังดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ประจำได้ตามปกติ และยังไม่พบกัมมันตภาพรังสีแพร่สู่สิ่งแวดล้อม

                วันนี้ 5 มี.ค.2565 สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) เผยแพร่รายงานเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริเซีย (Zaporizhzhya) ประเทศยูเครน (ฉบับที่ 2)  โดยในรายงานฯ ระบุว่า ปส.  ได้รับแจ้งจากหน่วยงานกำกับดูแลทางนิวเคลียร์ของประเทศยูเครน ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการแจ้งเหตุทางนิวเคลียร์โดยเร็ว ของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency, IAEA)  และจากการแถลงข่าวของ IAEA โดยมีรายละเอียด ดังนี้

                เมื่อวันที่4 มีนาคม 2565กองกำลังของสหพันธรัฐรัสเซียได้เข้าควบคุมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปรเซีย (Zaporizhzhia) ของประเทศยูเครนแล้ว แต่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยังคงดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ประจำตามปกติ  และ ยังไม่มีการแพร่กระจายของสารกัมมันตภาพรังสีสู่สิ่งแวดล้อม

                ผู้ประสานงานของประเทศยูเครนได้แจ้ง IAEA ว่าขีปนาวุธได้ถูกยิงเข้าไปในพื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซาโปริเซียในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ทำให้อาคารฝึกอบรมซึ่งตั้งอยู่ใกล้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เกิดเพลิงไหม้ และเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมเพลิงได้ในเวลาต่อมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย

อาคารฝึกอบรมที่เกิดเพลิงไหม้ (ลูกศรเหลือง) ในบริเวณสถานีไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปรเซีย

                ระบบความปลอดภัยของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้งหกหน่วยไม่ได้รับผลกระทบ และไม่มีการปล่อยสารกัมมันตภาพรังสีสู่สิ่งแวดล้อม ในขณะที่ระบบเฝ้าตรวจรังสีในพื้นที่โรงไฟฟ้ายังทำงานได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ผู้ปฏิบัติงานได้รายงานว่าสถานการณ์ยังคงมีความท้าทายอย่างมาก ดังนั้นจึงยังไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ทั้งหมดของโรงไฟฟ้าเพื่อประเมินว่าระบบความปลอดภัยทั้งหมดยังทำงานได้ตามปกติ

                ในขณะที่ สถานะของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทั้ง 6 หน่วย มีดังนี้

                หน่วยที่ 1 ถูกปิดเพื่อบำรุงรักษา

                หน่วยที่ 2 และหน่วยที่ 3 เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการปิดระบบ

                หน่วยที่ 4 ทำการเดินเครื่องปฏิกรณ์ที่กำลัง 690 เมกะวัตต์ (60% ของกำลังทั้งหมด)

                หน่วยที่ 5 และ หน่วยที่ 6 เดินเครื่องให้อยู่ในระบบ “สำรอง” ในระดับกำลังต่ำ

                เหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย  โดยปัจจุบัน ปส. ได้เฝ้าระวังภัยทางรังสีจากการเฝ้าตรวจระดับรังสีและกัมมันตภาพรังสีในอากาศของประเทศไทยและทวีปยุโรปอย่างต่อเนื่อง

                ทั้งนี้ ปส. จะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และจะแจ้งให้ทราบ หากมีสถานการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ในประเทศยูเครน นอกจากนี้ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก IAEA ที่ www.iaea.org