พพ. ชูประหยัดพลังงานภาครัฐวาระแห่งชาติ นำร่อง “ลดใช้พลังงานภาครัฐ 20% รวมพลังคนไทย ลดใช้พลังงานหาร 2”

New Energy

พพ. ชูธงรับนโยบายประหยัดพลังงานภาครัฐ วาระสำคัญแห่งชาติ จัดกิจกรรมรณรงค์การประหยัดพลังงาน “พพ. นำร่อง ลดใช้พลังงานภาครัฐ 20% รวมพลังคนไทย ลดใช้พลังงาน หาร 2”  

           (28 มีนาคม 2565) ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน เป็นประธานในกิจกรรมรณรงค์การประหยัดพลังงานภาครัฐ “พพ. นำร่อง ลดใช้พลังงานภาครัฐ 20% รวมพลังคนไทย ลดใช้พลังงาน หาร 2” ณ  กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน

          ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ กล่าวว่า จากการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้เห็นชอบแนวทางประหยัดพลังงานในหน่วยงานภาครัฐ อนุมัติเป็นหลักการให้หน่วยงานราชการดำเนินการลดการใช้พลังงานร้อยละ 20 ในช่วงครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ตั้งแต่เมษายน – กันยายน 2565 พพ. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่มีบทบาท หน้าที่ ในการส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน จึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์การประหยัดพลังงานภาครัฐ “พพ. นำร่อง ลดใช้พลังงานภาครัฐ 20% รวมพลังคนไทย ลดใช้พลังงาน หาร 2” ขึ้น เพื่อเป็นต้นแบบและเป็นผู้นำในการประหยัดพลังงานภาครัฐ เพื่อเป็นพลังสำคัญให้ประเทศสามารถผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤติพลังงานนี้ไปได้  

          “การจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นการประกาศนโยบายประหยัดพลังงาน สร้างความรู้ ความเข้าใจ ในหน่วยงานต่างๆ โดยบุคลากรของพพ.ทุกคน จะต้องประหยัดพลังงานทุกด้าน โดยมีเป้าหมายอย่างน้อยร้อยละ 20 มีการแต่งตั้งคณะทำงานด้านการจัดการพลังงาน เพื่อคอยกำกับ ดูแลให้การประหยัดพลังงานเป็นไปตามตัวชี้วัดที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน เป็นเรื่องสำคัญที่บุคลากรในภาคราชการต้องปฏิบัติตามมาตรการประหยัดพลังงานภาครัฐ ให้เห็นเป็นตัวอย่าง เช่น  การประชุมออนไลน์ การ Work From Home การส่งเอกสารทางระบบ E Government แทนการพิมพ์เอกสาร การล้างเครื่องปรับอากาศด้วยตัวเอง ทุก 3 เดือน โดยกองถ่ายทอดเทคโนโลยีได้จัดเป็นกิจกรรมฝ่าวิกฤตพลังงานหน้าร้อนล้างแอร์ด้วยตัวเอง ให้กับบุคลากรของ พพ. ตั้งเป้าหมาย 150 คน เริ่มอบรมตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 5 เมษายน 2565 ซึ่ง พพ. มีความยินดีที่จะเป็นศูนย์ข้อมูลให้ความรู้ แนะนำ อบรมเชิงปฏิบัติการณ์ ให้แก่หน่วยงานราชการอื่นๆ ตลอดจนภาคเอกชนและประชาชนทั่วไป”