NTจับมือTelehouseเสริมแกร่งบริการเชื่อมต่อเน็ตทั้งในและต่างประเทศ

i & Tech

NT ลงนามความร่วมมือ Telehouse เสริมความแข็งแกร่งบริการ Internet Exchange มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของอาเซียน

         วันที่  27 ตุลาคม 2565  บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ กับ บริษัท เทเลเฮ้าส์ (ประเทศไทย) จำกัด (Telehouse) ว่าด้วย การผสานเทคโนโลยีของทั้งสองฝ่าย มาต่อยอดการให้บริการร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อเพิ่มศักยภาพการแลกเปลี่ยน และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั้งในประเทศและต่างประเทศ รองรับการขยายฐานการให้บริการของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่จากต่างประเทศสู่ประเทศไทย ทั้งผู้ให้บริการคอนเทนต์ และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ตอบรับนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันประเทศให้เป็นศูนย์กลางดิจิทัลของอาเซียน

         นายเสกสรรค์ มิตรเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับ Telehouse ผู้ให้บริการด้านดาต้าเซ็นเตอร์ชั้นนำระดับโลกในครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่จะช่วยพัฒนาด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลสื่อสารทั้งในประเทศ และต่างประเทศให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยขอบเขตของบันทึกข้อตกลงคือ ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันนำทรัพยากรและบริการที่มี มาสร้างระบบนิเวศน์ทางการสื่อสารให้ครอบคลุมทุกการเชื่อมต่อของผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ ให้ได้ใช้งานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ  โดย NT จะขยายเครือข่ายการให้บริการโดยการจัดตั้งอุปกรณ์ในอาคารดาต้าเซ็นเตอร์ของ  Telehouse Bangkok เพื่อให้บริการแลกเปลี่ยนข้อมูล อาทิ บริการ Internet Exchange หรือ Thailand IX บริการเชื่อมต่อทุกรูปแบบ รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ต และบริการสื่อสารข้อมูลที่ครอบคลุมทั่วถึง ทั้งในและระหว่างประเทศ ด้วยระบบเคเบิลใต้น้ำและภาคพื้นดิน รวมถึงรองรับการเข้ามาลงทุนของกลุ่มบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจากต่างประเทศ

         ทั้งนี้ จากบริการของ NT ที่ครอบคลุมการเชื่อมต่อทั้งในและระหว่างประเทศ รวมถึงบริการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ครบวงจร เมื่อผสมผสานกับการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อและดาต้าเซ็นเตอร์ของ Telehouse จะเพิ่มขีดความสามารถของการให้บริการด้านการแลกเปลี่ยนเชื่อมต่อข้อมูลได้อย่างครอบคลุม ทันต่อเทรนด์ และความต้องการของลูกค้า ผู้ให้บริการคอนเทนต์จากต่างประเทศรายใหญ่ทั่วโลก เล็งเห็นศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทย ในการขยายฐานการให้บริการมาอยู่ใจกลางกรุงเทพฯนั่น ย่อมส่งผลให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต สามารถเชื่อมต่อสัญญาณได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังเป็นสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่สามารถประหยัดทั้งทรัพยากรและพลังงาน ที่สำคัญความร่วมมือครั้งนี้จะยิ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจโทรคมนาคมของประเทศ ซึ่งจะเป็นการต่อยอดสู่การเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลสื่อสารของอาเซียนต่อไป

         ด้าน นายเคน มิยาชิตะ กรรมการผู้จัดการบริษัท เทเลเฮ้าส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  Telehouse มุ่งเน้นการเป็น Inter Connection Data Center ที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ให้บริการจากทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้รูปแบบ Carrier Neutral เพื่อให้ลูกค้า อาทิ ผู้ให้บริการคลาวด์  ผู้ให้บริการคอนเทนต์   และ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) สามารถแลกเปลี่ยนอินเทอร์เน็ตทราฟฟิคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยค่าความหน่วง (Latency) ต่ำ และความปลอดภัยสูง Telehouse Bangkok ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองย่านธุรกิจพระราม 9 พร้อมเตรียมเส้นทางเชื่อมต่อไฟเบอร์จากภายนอกเข้าสู่อาคารได้ถึง 4 เส้นทาง เพื่อให้มีทางเลือกสำรองในการเชื่อมต่อดีที่สุด โดยมีเป้าหมายหลักในการเพิ่มประสบการณ์ให้แก่ลูกค้าที่มีความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น และสามารถใช้งานเครือข่ายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ”

         “ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับความร่วมมือกับ NT เนื่องจากเราได้เล็งเห็นโอกาสในการเพิ่มศักยภาพการให้บริการสื่อสารข้อมูล เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาด และเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ Mobile Payment, Clip Video, On-line Gaming ฯลฯ โดยความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายให้ทั้งสององค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งทางด้านทรัพยากร ความเชี่ยวชาญ และโครงสร้างพื้นฐานของแต่ละฝ่าย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการร่วมกัน โดยมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพในการเชื่อมต่อข้อมูลสื่อสารของผู้ให้บริการ สู่ผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเรามุ่งหวัง และตั้งใจที่จะเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในประเทศไทยและภูมิภาคในอนาคต เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย และนำไปสู่การเป็นศูนย์กลางการด้านโทรคมนาคมของอาเซียนอีกด้วย”

         ทั้งนี้ NT และ Telehouse ยังมีแผนร่วมมือกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อข้อมูล และรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตต่อไป