LPN เปิดตัว 4 โครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ 168 มูลค่า 5,400 ล้านบาทภายใต้แนวคิด “น่าอยู่” ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท และทาวน์โฮม 2 โครงการมูลค่ารวม 2,400 ล้านบาท
โครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาทได้แก่ 1.โครงการวิลล์ 168 บางหว้า (Ville 168 Bang Wa) มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท โดยออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Make Your Living in Colors” มีพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์ทั้งสายแอคทีฟ และสายชิล ร่มรื่นด้วยสวนสีเขียวรอบโครงการ บนถนนเพชรเกษม เดินทางสะดวกใกล้สถานีอินเตอร์เชนจ์ BTS-MRT บางหว้า เพียง 800 เมตร ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.53 ล้านบาท ซึ่งพร้อมเปิดจองแล้ววันนี้
![](http://www.innolifethailand.com/online/wp-content/uploads/2022/10/LPN1_04.jpg)
2. โครงการพาร์ค 168 อ่อนนุช 19 (Park 168 OnNut 19) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Let’s take a breath” เน้นการออกแบบโครงการให้มีความร่มรื่นกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่น ให้เป็นพื้นที่ความสุขให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย ด้วยมูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท
ส่วนอีก 2 โครงการเป็นที่พักอาศัยในรูปแบบ ได้แก่ โครงการ เวนู 168 เวสต์เกต (Venue 168 Westgate) ใกล้เซ็นทรัล เวสต์เกต และโครงการ เวนู 168 คูคต สเตชั่น (Venue 168 Khukhot Station) ใกล้กับสถานีบีทีเอสคูคต ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.29 ล้านบาท โดยพร้อมเปิดขายเร็วๆ นี้
![](http://www.innolifethailand.com/online/wp-content/uploads/2022/10/LPN1_์1.jpg)
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN กล่าวถึงแผนธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ว่า บริษัทยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ากว่า 5,400 ล้านบาท ตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ถึงแม้แนวโน้มเศรษฐกิจจะเติบโตต่ำกว่าที่คาดไว้ ซึ่งเป็นผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ แต่ยอดขายในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 LPN ยังคงสามารถรักษาอัตราการเติบโตของยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง โดยมียอดขายรวมถึง 6,800 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นประมาณ 8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564
ในจำนวนยอดขาย 6,800 ล้าน แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายโครงการคอนโดมิเนียม 4,800 ล้านบาท คิดเป็น 70% ของยอดขายรวม และโครงการบ้านพักอาศัย 2,000 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของยอดขายรวม ซึ่งสะท้อนถึงกำลังซื้อในตลาดที่ยังคงเติบโต และความเชื่อมั่นของลูกค้าในศักยภาพการพัฒนาโครงการของ LPN ทำให้บริษัทยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ได้ตามแผนที่วางไว้
![](http://www.innolifethailand.com/online/wp-content/uploads/2022/10/LPN1_05.jpg)
ในปี 2565 บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ 9 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 10,000 ล้านบาท โครงการบ้านพักอาศัย 3 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 มีการเปิดตัวโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่า 7,600 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการเพลส 168 ปิ่นเกล้า, โครงการลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด สเตชั่น, โครงการลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต – คลอง 1 เฟส 3, โครงการลุมพินี วิลล์ จรัญ – ไฟฉาย (เฟสใหม่) และโครงการเวนู 168 ราชพฤกษ์ 1 ทำให้บริษัทมี Backlog มูลค่ารวม 2,100 ล้านบาท ที่พร้อมจะรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ต่อเนื่องไปถึงปี 2566-2567 แบ่งเป็นส่วนของคอนโดมิเนียม 1,400 ล้านบาท และส่วนของบ้านพักอาศัย 700 ล้านบาท และมีสินค้าพร้อมขายทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านพักอาศัยมูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะสร้างรายได้ต่อเนื่องให้กับบริษัทในปี 2566-2568
![](http://www.innolifethailand.com/online/wp-content/uploads/2022/10/LPN1_02.jpg)
“โครงการที่จะเปิดตัวใหม่ทั้ง 4 โครงการ เป็นโครงการที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของผู้อยู่อาศัย ภายใต้แบรนด์ “168” ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “น่าอยู่” (Livable Home) โดยให้ความสำคัญกับเรื่องการใช้งาน (Function) การออกแบบทั้งโครงสร้าง และตกแต่งภายในแบบ Stylish Smart Living เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริงของคนเมืองรุ่นใหม่หรือกลุ่ม Gen Y ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่เริ่มต้นทำงาน (First Jobber) กลุ่มที่สร้างธุรกิจเอง (Entrepreneur) รวมไปถึงกลุ่ม Startups ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Uniqueness) ในทุกมิติทั้งการใช้งานและการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ (Identity) ทั้งเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีการอยู่อาศัยที่สะดวกและง่ายกับการใช้ชีวิต” นายโอภาสกล่าว