8 พ.ย.นี้ เปิดศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์แห่งแรกในไทย

i & Tech

ETDA จับมือพันธมิตร เปิดตัวศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์  8 พ.ย.นี้  ดันคนไทยประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI อย่างมีธรรมาภิบาล  

           ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์  ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กล่าวว่า  ปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI ได้เข้ามามีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนชีวิตของเราในทุกมิติ  ซึ่งล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทยระยะ 6 ปี (พ.ศ. 2565 – 2570)  แล้ว โดยหนึ่งในยุทธศาสตร์ของแผนดังกล่าว คือ การเตรียมพร้อมให้การประยุกต์ใช้ AI อย่างมีธรรมาภิบาล มีกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ใช้งานมีความรับผิดชอบต่อสังคม  

           ทั้งนี้  ETDA  ในฐานะหน่วยงานที่มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศไทยมีระบบนิเวศ (Ecosystem) ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศที่มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และเกิดความเชื่อมั่นในการใช้งาน จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมในประเด็นต่างๆ ที่จะส่งผลต่อการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบันมากขึ้น  โดย ETDA  ได้ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สนับสนุนการบรรลุเป้าหมายแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ  ผ่านโครงการสำคัญ อาทิ การศึกษา AI Standard Landscape ของประเทศไทย เพื่อพัฒนาข้อเสนอแนะ/มาตรฐานการประยุกต์ใช้ AI การศึกษาหลักเกณฑ์การตรวจประเมินการทำงานของโปรแกรมที่มีการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและสร้างขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการไทยในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล 

           และนำมาสู่ก้าวสำคัญของการยกระดับมาตรฐานของการใช้งาน AI ได้อย่างมีธรรมาภิบาลอย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุด กับงาน “Building Trust and Partnership in AI Governance” ที่ ETDA จะจัดขึ้น ในวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2565 นี้  เพื่อเปิดตัว “ศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI Governance Clinic by ETDA (AIGC)” ที่ ETDA ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศจัดตั้งขึ้น  เพื่อพัฒนากรอบธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์สำหรับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ให้มีความเหมาะสมกับบริบทของไทยและสอดคล้องกับแนวนโยบายในระดับสากล พร้อมเป็นแหล่งพัฒนาบุคลากรในระดับต่างๆ ที่มีการดำเนินงานร่วมกับ สถาบัน ADTE (Academy of Digital Transformation by ETDA) และศูนย์ AIGC นี้  ยังเป็นแหล่งรวบรวมองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายประเทศที่จะคอยให้คำปรึกษาด้านนโยบายและธรรมาภิบาลในการประยุกต์ใช้งาน AI  โดยคำนึงถึงมิติต่างๆ ที่สำคัญ

            ในงานดังกล่าวยังมีกิจกรรมการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง ETDA  กับ เนคเทค กรมการแพทย์ และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ในการร่วมกันพัฒนากรอบธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ในวงการแพทย์ ที่สอดคล้องกับบริบทของคนไทยและร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี AI ระหว่างกัน สร้างความรู้ความเข้าใจด้านธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือในการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ AI Governance Clinic แห่งแรกของประเทศไทยไปด้วยกัน

         นอกจากนี้ในงานฯ ยังเปิดพื้นที่ของการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์จากผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและต่างประเทศ ผ่านหัวข้อการพูดคุยที่น่าสนใจ เช่น  การบรรยายพิเศษในหัวข้อ “The need for Thailand AI Governance: Why What How?” โดย ดร. ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาอาวุโส  ETDA ที่จะมาบอกเล่าถึงที่มาและความสำคัญของการมีศูนย์ AI Governance Clinic by ETDA หรือ AIGC ที่จะทำให้การใช้งาน AI อย่างมีธรรมาภิบาลเป็นที่ยอมรับของสากลได้อย่างไร?  การเสวนาหัวข้อ “The Need for AI Governance” ที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักตัวอย่างของความสำเร็จของการประยุกต์ใช้ AI ทางการแพทย์ ตลอดจนผลกระทบและความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น และทิศทางของการมีธรรมาภิบาลในการประยุกต์ใช้ AI ที่น่าสนใจ และความสำคัญของการกำหนดนโยบายและธรรมาภิบาลในการใช้ AI สำหรับกลุ่มการแพทย์และสาธารณสุข              ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน “Building Trust and Partnership in AI Governance” ได้ในวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2565 เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป ผ่านการถ่ายทอดสด Facebook Live ที่เพจ ETDA Thailand (https://www.facebook.com/ETDA.Thailand)