iBASE ส่งแพลตฟอร์มอัจฉริยะ AIoT บุกตลาดองค์กรไทย

i & Tech

iBASE  ส่งแพลตฟอร์มอัจฉริยะ AIoT บุกตลาดองค์กรไทย ชมได้ที่ “Taiwan Excellence Pavilion” ในงาน “Taiwan Expo 2023”  

                เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา  กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน (BOFT) และสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA)   จัดแถลงข่าว “Taiwan Excellence Empowering a Green Future Press Conference”  เพื่อนำเสนอความสำเร็จของไต้หวันในกลุ่มธุรกิจสีเขียวเพื่ออนาคต (green future sector) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ 64 ผลิตภัณฑ์จากบริษัทที่ได้รับรางวัล Taiwan Excellence Awards จำนวน 28 บริษัทที่นำมาจัดแสดงใน “Taiwan Excellence Pavilion”  ภายในงานแสดงสินค้าไต้หวันในประเทศไทย  หรือ Taiwan Expo 2023

                มร. นิค นี  ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย (TECO) กล่าวว่า “ESG” และ “การพัฒนาที่ยั่งยืน” เป็นปัญหาสำคัญระดับโลก ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการส่งเสริมแนวคิด ESG อย่างจริงจังทั้งในภาคสังคมและธุรกิจ ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาห้าปีติดต่อกันในรายงานการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติประจำปี พ.ศ. 2566 โดยได้รับเสียงชื่นชมจากนานาชาติ  ขณะที่ไต้หวันเองก็มีความก้าวหน้าอย่างน่าทึ่งในด้านพลังงานหมุนเวียน การจัดการทรัพยากรน้ำ และผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก บริษัทต่างๆ ในไต้หวันกำลังลดการใช้พลังงานและพลาสติกเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้เหลือน้อยที่สุด และได้รับการยกย่องจากนานาชาติ ด้วยความพยายามร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศ เชื่อว่าประเทศไทยจะยังคงตำแหน่งผู้นำด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียนต่อไป

               มร. ฟิลิกซ์ ชิว รองประธานกรรมการบริหาร สภาส่งเสริมการค้า และการส่งออกแห่งไต้หวัน (TAITRA) ได้กล่าวอธิบายที่มาของรางวัล Taiwan Excellence Award รางวัลอันทรงเกียรตินี้จัดตั้งขึ้นโดยกระทรวงเศรษฐกิจในปี 2536 และมีดำเนินการคัดเลือกที่เข้มงวดตามหลักเกณฑ์ที่สำคัญ 4 ประการ ได้แก่ การวิจัยและพัฒนา การออกแบบ  คุณภาพ  และการตลาด  ซึ่งในแต่ละปีผลิตภัณฑ์ที่แสดงถึง ” คุณค่าทางนวัตกรรม” ได้รับการประเมินและคัดเลือกอย่างรอบคอบ   โดยบริษัทที่ได้รางวัล Taiwan Excellence ที่นำมาเสนอในงานนี้  ได้เน้นถึงคุณสมบัติสำคัญในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน บริษัทเหล่านี้ไม่เพียงแต่จัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดและเมดอินไต้หวันเท่านั้น แต่ยังเน้นถึงอนาคตสีเขียวด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง แนวปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และกลยุทธ์เพื่ออนาคต อีกด้วย

                ด้านนายชูชาติ สายถิ่น  รองประธานกรรมการ สถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับธุรกิจ เมื่อความยั่งยืนกลายเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญสำหรับผู้บริโภค การสร้างแบรนด์และกลยุทธ์ทางการตลาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถสร้างความแตกต่างให้ธุรกิจจากคู่แข่งและสร้างชื่อเสียงให้เพิ่มมากขึ้นได้ ยิ่งไปกว่านั้น การนำนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในเชิงรุกอาจช่วยให้เข้าถึงสิ่งจูงใจ เงินช่วยเหลือ และความร่วมมือจากรัฐบาล ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งทางการตลาดของบริษัทได้อีกทางหนึ่งด้วย

               สำหรับผลิตภัณฑ์ทั้ง 64 รายการที่นำมาจัดแสดงใน “Taiwan Excellence Pavilion”  ครอบคลุมธีมหลัก 4 หัวข้อ ได้แก่ อุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart Industry) การใช้ชีวิตอัจฉริยะ (Smart Living) สมาร์ทไอซีที (Smart ICT) และ ESG  โดยมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจในด้านต่างๆ  อาทิ แพลตฟอร์มอัจฉริยะ AIoT  และนวัตกรรม Digital signage  จาก  iBASE Technology Inc.  ซึ่งเป็นบริษัทไอที สัญชาติ ไต้หวัน ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2543   ธุรกิจหลักของ iBASE มุ่งเน้นการออกแบบ ผลิต และจำหน่ายคอมพิวเตอร์สำหรับอุตสาหกรรม (Industrial PC หรือ IPC) หรือเรียกว่าคอมพิวเตอร์แบบฝังตัวที่มีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ  (Artificial Intelligence of Things หรือ AIoT) แพลตฟอร์มการประมวลผลเอดจ์ คอมพิวติ้ง (Edge computing) ซึ่งเป็นการประมวลผลในจุดศูนย์กลางของโครงข่าย ด้วยฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) บนคลาวด์ และแพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย (Network security Platform)

               “Roland Chen”   ประธานบริหาร iBASE Technology Inc. กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ของ iBASE เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนและให้บริการได้ตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างเต็มที่   โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ได้รับรางวัล Taiwan Excellence Award ซึ่งถือได้ว่าเป็นรางวัลผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ยอดเยี่ยมและมีคุณภาพของไต้หวัน  และเป็นตราสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกคือ “ AGS103 ” ซึ่งเป็น IoT เกทเวย์ ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ไม่มีพัดลม ได้รับการออกแบบมาสำหรับเอดจ์เกตเวย์ที่รวบรวมข้อมูลอุปกรณ์ไคลเอ็นต์ เช่น ระบบอัตโนมัติของเครื่อง AGS103 จะเชื่อมโยงกับระบบคลาวด์และถ่ายโอนข้อมูลได้โดยอัตโนมัติ รวมทั้งสามารถเชื่อมต่อกับระบบภายในได้โดยอัตโนมัติด้วย  นอกจากนี้ยังมีการพัฒนานวัตกรรมเครื่องเล่นป้ายโฆษณาดิจิทัล (Digital signage player) สำหรับธุรกิจค้าปลีก ที่มีขนาดเล็ก ช่วยให้ธุรกิจสามารถเชื่อมต่อการโปรโมตผลิตภัณฑ์เข้ากับจอแสดงผล 4K ได้อย่างง่ายดาย และมีประสิทธิภาพ

               ทั้งนี้ iBASE อยู่ระหว่างพัฒนาตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย และหวังว่าจะร่วมกับพันธมิตร ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นในประเทศ สามารถที่จะร่วมกันนำเสนอและสร้างโครงสร้างพื้นฐานไอทีในประเทศไทย โดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มีการนำระบบอัตโนมัติหรือเครื่องจักร มาประยุกต์ใช้ในโรงงาน (Factory automation) และค้าปลีกที่ใช้แอพพลิเคชั่นระบบค้าปลีก ช่วยในการดำเนินธุรกิจ

               นอกจากนี้ในบูธTaiwan Excellence Pavilion ยังนำมีการนำเสนอโซลูชั่นแบบครบวงจรรองรับระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม  จาก ICP DAS บริษัทจากไต้หวัน ผู้พัฒนาเทคโนโลยี Industrial Internet of Things หรือ IIoT  โดยผลิตภัณฑ์ที่นำมาร่วมแสดง   ประกอบด้วย ระบบเซ็นเซอร์ก๊าซอุตสาหกรรม (Industrial Gas Sensor), สถานีตรวจอากาศขนาดเล็ก (Mini Weather Station) และ ระบบควบคุม IIoT Edge อัจฉริยะ (Intelligent IIoT Edge Controller)ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะเป็นโซลูชั่นที่ช่วยในการตรวจสอบคุณภาพอากาศ  

                และบริษัท Step2Gold ผู้ผลิตสินค้านวัตกรรมจากไต้หวันที่นำเสนอไม้เท้าเก้าอี้ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประจำวันของประชาชน โดยพัฒนาไม้เท้าเก้าอี้เอนกประสงค์ ภายใต้ชื่อ Tada Chair ซึ่งเป็นไม้เท้าที่สามารถเปลี่ยนจากไม้เท้าเป็นเก้าอี้ในเสี้ยววินาที ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา พกพาสะดวก เพียงมีไม้เท้า Tada เหมือนมีเก้าอี้ติดตัวในทุกการเดินทาง เหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่สามารถใช้งานได้แค่มือเดียว  รองรับน้ำหนักได้กว่า 100 กิโลกรัม  

               สำหรับรางวัล Taiwan Excellence Awards ก่อตั้งขึ้นในปี 1993 (พ.ศ.2536)  โดยกระทรวงเศรษฐกิจ เพื่อยกย่องและเฉลิมฉลองความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของบริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในไต้หวันในแต่ละปี ผู้สมัครที่มีสิทธิ์จะต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกที่เข้มงวดซึ่งประเมินผลิตภัณฑ์ของตนตามปัจจัยสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ การวิจัยและพัฒนา การออกแบบ คุณภาพ และการตลาด โดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลายได้คัดเลือกแบรนด์ที่โดดเด่นอย่างพิถีพิถัน ซึ่งมีความโดดเด่นในด้านความยั่งยืน การออกแบบ การวิจัยและพัฒนา เพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่มีความพิเศษด้านนวัตกรรม เครื่องหมายความเป็นเลิศของไต้หวันได้รับการยอมรับในระดับโลกว่าเป็นสัญลักษณ์อันทรงเกียรติด้านคุณภาพและการออกแบบ ซึ่งแสดงถึงนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่น่าประทับใจของไต้หวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ข้อมูลเพิ่มเติมติดตามได้ที่ www.taiwanexcellence.org