สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติเผย 21 ก.ย.นี้ “ดาวเสาร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปี”

News Update

สดร.​ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เผย 21 กันยายน 2568 ดาวเสาร์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งใกล้โลกที่สุดในรอบปี ห่างจากโลกประมาณ 1,279 ล้านกิโลเมตร ส่งผลให้ดาวเสาร์ปรากฏสว่างมาก มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และสังเกตการณ์ได้ตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้า สดร. เตรียมจัดส่องดาวเสาร์ผ่านกล้องโทรทรรศน์ 5 จุดสังเกตการณ์หลัก ณ อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร เชียงใหม่ และหอดูดาวภูมิภาค นครราชสีมา ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา และสงขลา เข้าร่วมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมชวนติดตามชมการถ่ายทอดสดปรากฏการณ์ผ่านทาง เฟซบุ๊ก และยูทูบของ NARIT 

          นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.)​ หรือ NARIT กล่าวว่า วันที่ 21 กันยายน 2568 ดาวเสาร์จะโคจรมาอยู่ตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ (Saturn Opposition) หมายถึงดวงอาทิตย์ โลก และดาวเสาร์ เรียงกันในแนวเส้นตรง โดยโลกอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์และดาวเสาร์ ส่งผลให้ดาวเสาร์มีระยะใกล้โลกที่สุดในรอบปี ห่างจากโลกประมาณ 1,279 ล้านกิโลเมตร และในวันดังกล่าวจะเริ่มสังเกตดาวเสาร์ได้ทางทิศตะวันออก หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ปรากฏสว่างเด่นชัดตลอดทั้งคืนจนถึงรุ่งเช้า และหลังจากนี้ ดาวเสาร์จะยังคงปรากฏบนท้องฟ้าไปจนถึงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2569

          สำหรับคืนวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2568 สดร. เตรียมจัดกิจกรรมสังเกตการณ์ “ดาวเสาร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปี” ตั้งแต่เวลา 18:00 – 22:00 น. ณ จุดสังเกตการณ์หลัก 5 แห่ง ได้แก่ อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ. แม่ริม จ. เชียงใหม่ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา และสงขลา เข้าร่วมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือชม LIVE ปรากฏการณ์ได้ทางเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ  https://www.facebook.com/NARITpage หรือทางยูทูบ NARIT Thailandhttps://www.youtube.com/@NARIT_Thailand

          นายศุภฤกษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปรากฏการณ์ครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการชมดาวเสาร์ผ่านกล้องโทรทรรศน์ เนื่องจากดาวเสาร์อยู่ในตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ ทำให้ได้รับแสงอาทิตย์เต็มที่ สามารถมองเห็นได้ง่ายและมีรายละเอียดมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีโอกาสเห็นดวงจันทร์บริวารที่สว่างที่สุดอย่าง ไททัน (Titan) ซึ่งเป็นดวงจันทร์ที่ใหญ่ที่สุดของดาวเสาร์และมีชั้นบรรยากาศหนาแน่น และหากสังเกตผ่านกล้องโทรทรรศน์ขนาดกลางตั้งแต่ 8 นิ้ว ขึ้นไปจะสามารถเห็นดวงจันทร์อื่น ๆ เช่น ดวงจันทร์รีอา (Rhea) ทีทิส (Tethys) ไดโอนี (Dione) ไอแอพิตัส (Iapetus) ได้อีกด้วย

          ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่วงแหวนดาวเสาร์มีมุมเอียงน้อยที่สุด ผู้สังเกตบนโลกจึงมองเห็นดาวเสาร์เสมือน “ไร้วงแหวน” เนื่องจากมุมเอียงของวงแหวนดาวเสาร์จะเปลี่ยนแปลงไปตามการโคจรของดาวเสาร์รอบดวงอาทิตย์ หนึ่งรอบใช้เวลาประมาณ 29.4 ปี ส่งผลให้ดาวเสาร์จะปรากฏเสมือนไร้วงแหวน เมื่อมองจากโลกในทุก ๆ 15 ปี ปรากฏการณ์นี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงมุมเอียงและโครงสร้างของวงแหวนดาวเสาร์ในระนาบต่าง ๆ และด้วยระนาบการเอียงที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปี ทำให้วงแหวนดาวเสาร์ปรากฏแตกต่างไปตามมุมมองที่มองจากโลกจึงเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ของการสังเกตการณ์ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะที่น่าติดตาม อย่างไรก็ตามในคืน 21 กันยายนนี้ ดาวเสาร์จะไม่ได้ปรากฏเสมือนไร้วงแหวนแล้ว แต่ระนาบวงแหวนยังคงมีมุมเอียงที่น้อย จึงจะเห็นดาวเสาร์พร้อมกับวงแหวนบาง ๆ