TrueBusiness เปิดกลยุทธ์ “Go Beyond Connectivity” พลิกเกมธุรกิจด้วย Data & AI Solutions ชี้คนเป็นปัจจัยสำคัญในขับเคลื่อนทุกสิ่ง มุ่งสร้างระบบนิเวศเทคโนโลยีที่ครบทั้งโครงสร้าง ความปลอดภัย และการพัฒนาคน เพื่อให้ทุกองค์กรไทยก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นใจ มั่นคง และปลอดภัย

ดร.ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกลุ่มธุรกิจองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดโทรคมนาคมมีมูลค่า ประมาณ 8 แสนล้านบาท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 4.3 % สิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างการเติบโต คือ การปรับเปลี่ยนธุรกิจของตนเอง ซึ่งทรู ฯ มีวิสัยทัศน์ในการปรับบทบาทจากการเป็น “Infrastructure player” ไปสู่ “Intelligence player” และใช้กลยุทธ์ “Go Beyond Connectivity” ที่เป็นมากกว่าการเชื่อมต่อ โดยมุ่งเน้นในเรื่องของ Data & AI Solutions ซึ่งมีข้อมูลในระดับโลกที่ระบุว่า AI คือ หนึ่งในสิ่งที่จะขับเคลื่อน GDP ให้เติบโตได้ถึง 14 %
ทั้งนี้ TrueBusiness พร้อมจะเป็นพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีที่จะขับเคลื่อนธุรกิจไทยในทุกระดับ ให้สามารถทำ Digital Transformation ได้อย่างมั่นคง ผ่าน TrueBusiness Ecosystem ที่เป็นเหมือน ศูนย์รวมโซลูชันครบวงจร แบบครบจบในที่เดียว โดย Ecosystem ดังกล่าว ถูกออกแบบให้เชื่อมโยงทุกมิติของเทคโนโลยีที่ธุรกิจต้องการ ครอบคลุม 3 ส่วนหลัก (Core Layers) และ 3 บริการสนับสนุน (Supporting Services) ที่ช่วยให้องค์กร “เชื่อมต่ออย่างมั่นคง ปลอดภัย และเติบโตอย่างยั่งยืน”
สำหรับบริการ Core Layers ประกอบด้วย 1. Network Infrastructure การวางรากฐานระบบการติดต่อสื่อสารและอินเทอร์เน็ตที่เร็ว เสถียร ปลอดภัย และขยายได้ไม่จำกัด รองรับระบบ Cloud, IoT และ AI ไม่ว่าจะเป็นระบบโทรศัพท์คู่สาย, Corporate Internet, MPLS, SD-WAN (เครือข่ายอัจฉริยะ) โซลูชันที่เชื่อมสำนักงานใหญ่-สาขา-คลาวด์ อัตโนมัติ เร็ว เสถียร ปลอดภัย, SASE โซลูชันที่รวมเทคโนโลยี SD-WAN และ SSE (Security Service Edge) ไว้ด้วยกัน เพิ่มความปลอดภัย ความเร็ว และความยืดหยุ่นในการเข้าถึงข้อมูลองค์กร พร้อมลดความซับซ้อนในการจัดการระบบ, LAN & Fabric Network, Private WiFi และ 5G Private Network
2. IT Infrastructure การยกระดับประสิทธิภาพโครงสร้างไอทีที่ยืดหยุ่นด้วยการใช้ประโยชน์จากระบบ Cloud และ Data Center แทนการตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง และมี End-point Management & Security ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุน สร้างความปลอดภัย และเพิ่มความคล่องตัว ในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ และ 3. AI & Digital Solutions ที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจด้วย AI และโซลูชันดิจิทัล เช่น Data Analytics, Contact Center, Smart Energy, AI MarTech, Chatbot, และ Smart Office Solutions
ส่วนบริการสนับสนุน (Supporting Services) จะมีทั้ง Managed Service หรือ ผู้เชี่ยวชาญดูแลแทน ซึ่งทีมงาน TrueBusiness เข้ามาบริหารจัดการ ติดตั้ง ตรวจสอบ และบำรุงรักษาระบบไอทีทั้งหมดให้แทน ทำให้องค์กรสามารถโฟกัสกับการทำธุรกิจหลัก ได้อย่างเต็มที่ Cybersecurity การปกป้องครบวงจร บริการครอบคลุมตั้งแต่ การประเมินความเสี่ยง ตรวจจับภัยคุกคาม ไปจนถึงการบริหารจัดการความปลอดภัยของข้อมูลและระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจปลอดภัยในทุกมิติ และ Talent Development การพัฒนาคนยุคดิจิทัล การพัฒนาทักษะและความรู้ด้านดิจิทัลของบุคลากรในองค์กรผ่าน True Digital Academy เพื่อให้พนักงานพร้อมเติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ
ดร.ธีรเดช กล่าวว่า ปัจจุบัน TrueBusiness มีฐานลูกค้าประมาณ 3 แสนราย โดยบริการด้าน Connectivity ยังคงเป็นรายได้หลัก ประมาณ 80-90 % ซึ่งในอนาคต TrueBusiness จะผลักดัน รายได้ จากบริการอื่นๆ ให้มีการเติบโตสูงขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว
อย่างไรก็ดี TrueBusiness ไม่ได้ต้องการแค่สร้างการเติบโตในบริษัทเท่านั้น แต่ยังต้องการเป็นส่วนหนึ่งของ “ทีมประเทศไทย” ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพหรือ Productivity และมีการพัฒนา “คน” ให้รู้เท่าทันเทคโนโลยี ใช้เป็น และใช้ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง “คน” ถือเป็นปัจจัยสำคัญในขับเคลื่อนทุกสิ่ง

ด้านนายตฤณ สิทธิอนันต์วงศ์ หัวหน้าสายงานการพาณิชย์ด้านกลุ่มธุรกิจองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า Pain Point ของการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ของธุรกิจในปัจจุบันคือ การไม่รู้ว่าจะนำข้อมูลที่มีอยู่ ไปใช้ พัฒนาธุรกิจได้อย่างไร รวมถึงข้อมูลมีจำกัด และยังขาดข้อมูลเชิงลึก เช่นพฤติกรรมผู้บริโภค ที่จะทำให้สามารถพัฒนากลยุทธ์ที่เหมาะกับธุรกิจได้มากขึ้น ซึ่งการนำข้อมูลเชิงลึกไปใช้ประโยชน์จะช่วยทั้งสร้างรายได้ ลดต้นทุนและค้นพบ โอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ทั้งนี้ True Business ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเข้าถึงลูกค้า จากเดิมที่ขายผลิตภัณฑ์ เป็นชิ้น ๆ มาเป็นการนำเสนอเป็นโซลูชั่น ที่ออกแบบเพื่อตอบโจทย์ปัญหาของลูกค้าแต่ละราย
