กรุงเทพฯ, 24 พฤศจิกายน 2568 — บริษัท สามารถ อินโฟเนต จำกัด (Samart Infonet) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีดิจิทัลครบวงจร ในเครือบริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญในการยกระดับบริการ SAFE Cloud ด้วยการได้รับ 5 มาตรฐานการรับรองจาก BSI (ประเทศไทย) องค์กรรับรองมาตรฐานระดับโลกจากสหราชอาณาจักร ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้ให้บริการคลาวด์สัญชาติไทยที่ได้มาตรฐานสากล ทั้งในด้านความปลอดภัย การบริหารจัดการ และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
นายธานินทร์ ตันกิติบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามารถ อินโฟเนต จำกัด กล่าวว่า “การได้รับการรับรองทั้ง 5 มาตรฐานนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของสามารถ อินโฟเนต ในการพัฒนา SAFE Cloud ให้เป็นบริการคลาวด์สัญชาติไทย ที่มีคุณภาพสูงสุด ทั้งด้านความปลอดภัย เสถียรภาพ และการบริหารจัดการที่มีมาตรฐานระดับโลก เพื่อให้หน่วยงานและองค์กรมั่นใจได้ว่าทุกข้อมูลจะถูกจัดเก็บและดูแลอย่างปลอดภัยในประเทศ”
มาตรฐานที่ได้รับประกอบด้วย:
- ISO/IEC 27001 – ระบบการจัดการความมั่นคงปลอดภัยของสารสนเทศ
- CSA STAR – มาตรฐานความปลอดภัยสำหรับผู้ให้บริการคลาวด์
- ISO/IEC 27701 – ระบบบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Information Management)
- ISO/IEC 27018 – การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลบนคลาวด์สาธารณะ
- ISO/IEC 20000-1 – ระบบบริหารจัดการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Service Management)
ธานินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า “มาตรฐานทั้ง 5 ฉบับนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า SAFE Cloud ของสามารถ อินโฟเนต ได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลในทุกมิติ ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ความมั่นคงปลอดภัย การบริหารจัดการ และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะองค์กรที่ต้องการระบบคลาวด์ที่ปลอดภัยและมีความเสถียรสูง”
นอกจากนี้ การได้รับมาตรฐาน ISO/IEC 20000-1 (IT Service Management) ยังสะท้อนถึงเสถียรภาพในการดำเนินงาน และประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ที่สามารถรองรับ Workload ขนาดใหญ่และซับซ้อนได้อย่างมีมาตรฐานในระดับสากล เพื่อให้ทุกกระบวนการดำเนินงานอยู่บนระบบที่ มั่นคง เชื่อถือได้ และพร้อมรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต
เดินหน้าขยายบริการครบวงจร รองรับตลาดคลาวด์ที่เติบโตต่อเนื่อง
สามารถ อินโฟเนต มีแผนขยายบริการ SAFE Cloud เพื่อรองรับความต้องการของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่มองหาคลาวด์คุณภาพสูงในประเทศ พร้อมบริการเสริมที่สร้างมูลค่าเพิ่ม อาทิ
- Disaster Recovery as a Service (DRaaS) – บริการสำรองและกู้คืนระบบจากภัยพิบัติ
- Managed Security Services (MSS) – บริการบริหารจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบครบวงจร
- AI & Data Analytics on Cloud – บริการรองรับการวิเคราะห์ข้อมูลและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์บนคลาวด์
“เรามุ่งมั่นที่จะทำให้ SAFE Cloud เป็นแพลตฟอร์มคลาวด์ของคนไทย ที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ด้วยมาตรฐาน ความปลอดภัย และคุณภาพการให้บริการที่องค์กรมั่นใจได้” นายธานินทร์กล่าวสรุป
