ไซเบอร์ อีลีท จับมือคลาวด์สไตรก์ ใช้เทคโนโลยีช่วยองค์กรเผชิญเหตุโจมตีทางไซเบอร์

i & Tech

ไซเบอร์ อีลีท จับมือคลาวด์สไตรก์  สนับสนุนองค์กรต่อต้านภัยคุกคามทางไซเบอร์ ใช้เทคโนโลยีระดับโลกปกป้องการเกิดผลกระทบ ก่อนธุรกิจหยุดชะงัก   เผยปีที่ผ่านมาแฮกเกอร์เกิดใหม่กว่า 33 กลุ่ม มุ่งโจมตีผ่านคลาวด์มากขึ้นถึง 95%

            ดร.ศุภกร กังพิศดาร  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซเบอร์ อีลีท จำกัด ในกลุ่ม บีซีจี เบญจจินดา กล่าวว่า ไซเบอร์ อีลีท มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำในการให้บริการด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งปัจจุบันภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดทั้งในแง่ของปริมาณและระดับความรุนแรง จากการสำรวจของคลาวด์สไตรก์ พบว่ามี 33 กลุ่มแฮกเกอร์ที่เกิดใหม่ในปี 2565 ที่ผ่านมา โดยทำให้มีภัยคุกคามทางไซเบอร์มีมากกว่า 210 ภัยคุกคาม โดยโจมตีผ่านระบบคลาวด์มากขึ้นถึง 95% และใช้เวลาเฉลี่ยในการโจมตีเพียง 84 นาที

            ทั้งนี้แนวทางการดำเนินงานของไซเบอร์ อีลีท เน้นร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้  โดยในครึ่งปีหลังนี้ได้ผสานความร่วมมือกับคลาวด์สไตรก์ หรือ CrowdStrike  ผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ระดับโลก  ซึ่งไซเบอร์ อีลีท ได้รับการคัดเลือกให้เป็น CrowdStrike Powered Service Provider (CPSP) Partner ของคลาวด์สไตรก์ที่สามารถนำเสนอบริการ Managed Services จากคลาวด์สไตรก์ได้

            นอกจากนี้ไซเบอร์ อีลีท ยังได้รับความไว้วางใจให้มีสิทธิ์ใน Engagement License Program (ELP) ซึ่งเป็นรายเดียวในประเทศไทย ที่สามารถใช้เทคโนโลยีของคลาวด์สไตรก์ เพื่อช่วยองค์กรเผชิญเหตุทางไซเบอร์ในกรณีที่ติดแรนซัมแวร์หรือถูกโจมตีทางไซเบอร์ ผนวกกับบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมากด้วยประสบการณ์ของ ไซเบอร์ อีลีท จึงเป็นการยกระดับบริการและช่วยปกป้ององค์กรจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

            “การร่วมมือกันระหว่าง ไซเบอร์ อีลีท และ คลาวด์สไตรก์ นั้น เรามองว่า คลาวด์สไตรก์ เป็นองค์กรผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับโลก ซึ่งทั้ง 2 บริษัทต่างมีประสบการณ์ในการสนับสนุนองค์กรทั้งด้านป้องกัน เฝ้าระวัง ตรวจจับและรับมือกับเหตุการณ์ภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั้งในประเทศและระดับโลก โดยทั้งสองบริษัทเห็นร่วมกันว่า กลุ่มธุรกิจทางการเงิน (BFSI) และกลุ่มการแพทย์และโรงพยาบาล (Healthcare) เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีการพยายามถูกโจมตีสูงและมีการอัตราการถูกโจมตีสำเร็จอยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกัน  การนำประสบการณ์และการแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกในตรวจจับ ป้องกัน และรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ให้แก่กลุ่มลูกค้าที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงจึงเป็นแผนงานสำคัญที่จะดำเนินร่วมกัน  เพื่อให้องค์กรได้เข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์และสามารถทดลองใช้เทคโนโลยีของคลาวด์สไตรก์ รวมถึงการตรวจสอบการโจมตีและประเมินความเสี่ยงการถูกโจมตีขององค์กร (Compromised Assessment)” ดร.ศุภกร กล่าว

             นายณัฐพล อาภาแสงเพชร ผู้อำนวยการฝ่าย Managed Security Services บริษัท ไซเบอร์ อีลีท จำกัด  กล่าวว่า  ความร่วมมือกันในครั้งนี้  ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีในการตรวจจับ และป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ CrowdStrike Falcon ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษ 3 ด้าน คือ 1. Cloud native จากที่โซลูชั่นและการให้บริการถูกออกแบบบนระบบคลาวด์ทั้งหมดจะช่วยลดความซับซ้อนและประหยัดต้นทุนการดำเนินงานในการนำระบบมาประยุกต์ใช้ 2. AI powered   เสริมการทำงานของนักวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยใช้ประโยชน์สูงสุดจาก Big data และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)  และ  3. Single agent   ส่งมอบทุกความสามารถและคุณสมบัติการป้องกันภัยคุกคามบนระบบเดียว ทำให้หมดความกังวล และขจัดความท้าทายด้านการทำงานร่วมกันของระบบต่าง ๆ และไม่มีผลกระทบกับการทำงานของผู้ใช้งาน

            “การร่วมมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการเฝ้าระวัง การบริหารระบบป้องกันภัยคุกคาม และบริการการตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี CrowdStrike Falcon เป็นเครื่องมือสำคัญในการให้บริการ และด้วย ไซเบอร์ อีลีท ได้รับสิทธิ์ใน Engagement License Program (ELP) ซึ่งบริษัทต้องผ่านข้อทดสอบและหลักเกณฑ์มากมายเพื่อที่จะได้รับการคัดเลือก โดยแนวคิดของโปรแกรมนี้คือ เมื่อลูกค้าที่แม้ไม่ใช่ลูกค้าของ ไซเบอร์อีลีท ถูกโจมตีทางไซเบอร์จนได้รับผลกระทบ ทำให้การทำงานหยุดชะงัก CrowdStrike สามารถสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้การสนับสนุนการช่วยเหลือกอบกู้ เทียบได้กับอาวุธ โดยมีหน่วยรบเพื่อเข้าช่วยดำเนินการแก้ไขโดย ไซเบอร์ อีลีท แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งลูกค้าจะได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก” นายณัฐพล กล่าว

            ด้านนายกิริช การ์เกชวาริ  ผู้อำนวยการฝ่ายคู่ค้าสัมพันธ์ (channel) ภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า การร่วมมือดังกล่าว คลาวด์สไตรก์ เห็นศักยภาพของ ไซเบอร์ อีลีท ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ที่มีประสบการณ์ ร่วมงานกันมาอย่างต่อเนื่อง และมีเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้าน Managed Security Services  ในประเทศไทยที่มีฐานลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนที่แข็งแกร่ง ซึ่งเทคโนโลยีของคลาวด์สไตรก์ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถช่วยยกระดับบริการให้เหนือกว่าคู่แข่งได้ และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายทั้งของสองบริษัท โดยมั่นใจว่ามีความสามารถในการแก้ไขสถานการณ์หากลูกค้าถูกโจมตีได้รวดเร็วด้วยเครื่องมือจาก Engagement License Program รวมถึงสามารถตรวจจับ ปกป้อง ไม่ให้องค์กรถูกโจมตีจากความแม่นยำของ CrowdStrike Falcon Platform ผนวกกับความฉลาดในการตอบสนองและให้ความช่วยเหลือจาก AI Powered Threat Analysis ยิ่งเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จได้เป็นอย่างดี

            สำหรับระยะแรกเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่หลากหลาย  ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มภาคการเงิน (ธนาคาร, ตลาดทุน, ประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย) ภาครัฐ (ราชการและรัฐวิสาหกิจ) รวมไปถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่กำลังได้รับความท้าทายจากการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ความเป็นดิจิทัลมากขึ้น โดยการเลือกใช้บริการร่วมจาก ไซเบอร์ อีลีท และคลาวด์สไตรก์ จะช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากภัยคุกคามประหยัดเวลาในการบริหารจัดการการเฝ้าระวัง และลดความยุ่งยากได้