บิสกิต โซลูชั่น ชี้ BIZCUIT Vision Analytics (BVA) โซลูชันวิทยาการวิเคราะห์ภาพแบบเรียลไทม์ด้วยเทคโนโลยี Computer Vision ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด ล่าสุดเปิดตัว Computer Vision 2023 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ที่วิเคราะห์ภาพเรียลไทม์ ด้วย AI ที่ฉลาดขึ้น มาพร้อมความสามารถใหม่สุดล้ำ เปลี่ยนกล้อง CCTV ให้เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ AI CCTV เพิ่มประสิทธิภาพจากเวอร์ชันเดิมถึง 50 เท่า พร้อมโชว์เคส 4 ธุรกิจนำไปใช้งานจริง
![](http://www.innolifethailand.com/online/wp-content/uploads/2023/10/สุทธิพันธุ์-สุทัศน์-ณ-อยุธยา_BIZCUIT-Solution_2_0-1024x582.jpg)
นายสุทธิพันธุ์ สุทัศน์ ณ อยุธยา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิสกิต โซลูชั่น จำกัด หรือ BIZCUIT Solution เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัว BIZCUIT Vision Analytics (BVA) เมื่อปีที่ผ่านมา โดยเป็นโซลูชันวิเคราะห์ภาพแบบเรียลไทม์ด้วยเทคโนโลยี Computer Vision ด้วยระบบ AI ที่สามารถเข้าใจและตอบสนองต่อข้อมูลภาพอย่างชาญฉลาด เปลี่ยนกล้อง CCTV ที่ทุก ๆ ร้านมีอยู่แล้ว ให้กลายเป็นกล้อง AI CCTV โดยไม่ต้องติดกล้องใหม่ พร้อมทั้งช่วยในการเก็บข้อมูลและประมวลผลโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ เช่น การวิเคราะห์จำนวนลูกค้าที่เดินเข้าร้านเทียบกับเปอร์เซ็นต์จำนวนคนที่ผ่านหน้าร้าน เพื่อวิเคราะห์ความน่าสนใจในการจัดหน้าร้านและการจัดการพนักงานหน้าร้าน หรือการตรวจสอบระยะเวลาที่ลูกค้าต้องรอคิวและระยะเวลาที่พนักงานให้บริการลูกค้า ว่าเร็วพอที่จะไม่ทำให้สูญเสียลูกค้าไปหรือไม่ เป็นการช่วยทรานฟอร์มฯ ธุรกิจได้อย่างแท้จริง และได้รับผลตอบรับดีเกินคาด ล่าสุดจึงได้เปิดตัว Computer Vision 2023 โดยเพิ่มความสามารถวิเคราะห์ภาพเรียลไทม์ ด้วย AI ที่ฉลาดขึ้น
![](http://www.innolifethailand.com/online/wp-content/uploads/2023/10/PR_Vision_04_WithoutLogo_0_0-1024x576.png)
“โซลูชัน Bizcuit Vision Analytics เป็นการนำเทคโนโลยีด้าน Computer Vision มาผสานกับเทคโนโลยี Edge Computing สร้างเป็นกล่องอัจฉริยะพร้อมนำภาพจากกล้อง CCTV มาเสียบต่อเพื่อให้ AI ประมวลผลที่กล่องแบบเรียลไทม์ และไม่ผ่านการบันทึกภาพทำให้ใช้งานได้โดยไม่ผิด PDPA ผลที่วิเคราะห์ได้สามารถนำไปแสดงผลแบบแดชบอร์ด หรือสร้างเป็นการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ เพื่อให้หน้างานแก้ไขการทำงานได้โดยไม่ต้องมีมนุษย์มาคอยนั่งเผ้าดู รูปแบบการวิเคราะห์นั้นมีความหลากหลาย โดยหนึ่งกล่องอัจฉริยะสามารถวิเคราะห์ภาพจากกล้องได้มากถึง 15 กล้องต่อหนึ่งกล่องสำหรับการวิเคราะห์ที่ใช้จำนวนภาพนิ่ง (frame rate) ต่ำ ส่วนการวิเคราะห์ที่ต้องใช้ frame rate สูงก็จะสามารถวิเคราะห์บนจำนวนกล้องต่อกล่องที่น้อยลงหากมีความซับซ้อนมากขึ้น จุดเด่นสำคัญที่สุดคือทุก ๆ สถานที่สามารถเพิ่มการวิเคราะห์ที่ชาญฉลาดเข้าไปในกล้องใดก็ได้โดยไม่ต้องติดตั้งกล้องใหม่” นายสุทธิพันธุ์ กล่าว
![](http://www.innolifethailand.com/online/wp-content/uploads/2023/10/PR_Vision_03_WithoutLogo_0_0-1024x576.png)
นายสุทธิพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเวอร์ชันใหม่ล่าสุดนี้ ระบบ AI ยังสามารถวิเคราะห์ได้หลายมิติมากขึ้นในอุปกรณ์เพียงตัวเดียว เช่น การนับจำนวนคนที่เดินเข้า-ออกร้านได้ละเอียดขึ้น การแยกแยะเพศ การวิเคราะห์แยกแยะลูกค้ากับพนักงาน ทำให้สามารถปรับแต่งเรื่องที่ต้องการวิเคราะห์ให้เหมาะสมกับธุรกิจได้สูงสุดถึง 3 เรื่องต่อ 1 อุปกรณ์เพียงตัวเดียว ซึ่งก็จะช่วยให้ประหยัดต้นทุนการรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์มากขึ้น และยังแม่นยำเหมือนเดิมในราคาที่จับต้องได้
![](http://www.innolifethailand.com/online/wp-content/uploads/2023/10/PR_Vision_02_WithoutLogo_0_0-1024x576.png)
นอกจากนี้ มีตัวอย่างการประยุกต์ใช้ใน 4 ธุรกิจที่น่าสนใจคือ 1. ธุรกิจค้าปลีก (Retail) ร้าน Luxury Brand แห่งหนึ่ง ต้องการทราบว่าลูกค้าที่เดินเข้าร้านมีกี่คนที่ซื้อสินค้าออกมา โดย Computer Vision จะตรวจจับว่าลูกค้าที่เดินออกมามีกี่คนถือถุงของแบรนด์นั้น ๆ 2. ธุรกิจ Warehouse เกี่ยวกับระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm) ซึ่งโดยปกติจะทำงานต่อเมื่อเกิดไฟไหม้แล้ว แต่ Computer Vision จะเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดในคลังสินค้าตรวจจับประกายไฟ และแจ้งเตือนก่อนที่จะมีเหตุการณ์อันตรายเกิดขึ้น เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานที่อาจก่อให้เกิดประกายไฟ ช่วยให้การดำเนินงานธุรกิจมีเกณฑ์ความปลอดภัยที่สูงขึ้น 3. Smart City เป็นการใช้เพื่อตรวจจับรถยนต์ในสถานที่ห้ามจอด โดยในเวอร์ชันใหม่ หากติดตั้งกล้องในพื้นที่ละแวกเดียวกัน จะสามารถวิเคราะห์ผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อเพียงแค่ตัวเดียว ครอบคลุมการวิเคราะห์ได้บนพื้นที่จำนวนมาก และ 4. ธุรกิจ Contact Center นำมาใช้ในการตรวจจับการปฏิบัติงานของพนักงาน ซึ่งหากพบสิ่งผิดปกติ เช่น พนักงานไม่อยู่โต๊ะนานเกินเวลาที่กำหนด หรือพนักงานนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่น ตัวโซลูชันที่เชื่อมต่อกับกล้องก็จะมีการแคปเจอร์ภาพ ส่งแจ้งเตือนไปยังผู้บังคับบัญชาหรือผู้เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ดี เทคโนโลยี Computer Vision ในเวอร์ชันใหม่นี้ จะเป็นตัวช่วยสำคัญที่สามารถผลักดันธุรกิจทรานส์ฟอร์มองค์กรด้วยระบบ AI ที่ชาญฉลาดยิ่งกว่า โดยล่าสุดมีธุรกิจสนใจใช้บริการแล้วกว่า 20 ธุรกิจ คาดการให้บริการวิเคราะห์ภาพจากกล้องแตะ 300 จุดภายในสิ้นปี 2566 นี้
สนใจทดลองใช้งานโซลูชัน ติดต่อ https://www.bizcuitsolution.com/th/talk-to-us/