“Assist ME” แชทบอทอัจฉริยะรองรับออฟฟิศยุคนิวนอร์มอล

เวทีวิจัย

                 โควิด-19 ถือเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดกระแส “ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน” (Digital Transformation)   อย่างรวดเร็ว องค์กรต่าง ๆ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบและนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในการบริหารงานในองค์กร

                 ซึ่ง “แชทบอท” (Chatbot)  ก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ปัจจุบันมีบทบาทอย่างมากในการเป็นผู้ช่วยตอบคำถามแทนมนุษย์ โดยธุรกิจตั้งแต่ขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาดเล็กได้นำมาเป็นเครื่องมือในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการกับคอนซูเมอร์อย่างแพร่หลาย   อีกทั้งยังสามารถนำมาใช้กับการดำเนินงานขององค์กรได้ด้วยเช่นกัน   เนื่องจากข้อดีของแชทบอทคือประหยัดเวลา ประหยัดกำลังคน สามารถตอบสนองการตอบคำถามได้รวดเร็ว ตลอด 24 ชม. ด้วยเทคโนโลยี AI  ที่นับวันจะฉลาดมากขึ้น สามารถตอบสนองผู้ใช้บริการได้รวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น  

                 นางสาวกษมา เจตน์จรุงวงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลมอนด์ ดิจิทัล กรุ๊ป (Almond Digital Group) บอกว่า   หลังวิกฤตองค์กรมุ่งนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงล่วงหน้า หากต้องเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ในระลอกสอง หรือเมื่อต้องเผชิญกับวิกฤตใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ปัจจัยดังกล่าวผลักดันให้องค์กรให้ความสำคัญกับการเพิ่มความสามารถ และทักษะของพนักงาน ที่จะต้องทำงานร่วมกันแบบดิจิทัล รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงการตั้งเป้าหมายในการทำงานและการประเมินพนักงาน ซึ่งแชทบอท นับเป็นหนึ่งเทคโนโลยีสำคัญที่เข้ามาเป็นตัวกลางช่วยประสานการทำงานระหว่างพนักงานกับองค์กรให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้กับองค์กรในยุคพื้นฟูธุรกิจหลังวิกฤต

                  “ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรยุคใหม่ Almond จึง พัฒนา  “AssistMe” ผลิตภัณฑ์แชทบอทอัจฉริยะสำหรับใช้เพื่อองค์กรเป็นรายแรก  ซึ่งจะเข้าไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในองค์กร นับเป็นการออกแบบและการพัฒนานวัตกรรมบน Microsoft Teams แพลตฟอร์มการทำงานยอดนิยมอันดับโลกที่เติบโตเร็วที่สุดของ Microsoft เพื่อสร้างประสบการณ์การทำงานรูปแบบใหม่ ด้วยการนำเอาจุดแข็งของ Microsoft Teams มาทำงานร่วมกันผ่านระบบการสนทนา (Chat-based workspace) และสามารถเชื่อมต่อกับระบบการทำงานอื่น ๆ เช่น Office 365, Outlook มารวมกับ Insights ที่เกิดจากความเชี่ยวชาญด้านประสบการณ์ลูกค้า มีความเข้าใจในธุรกิจและพฤติกรรมของผู้ใช้งานชาวไทยของ Almond รวมเข้าด้วยกัน ยกระดับให้ Assist Me เป็นมากกว่าแชทบอททั่วไป โดยจะสามารถตอบโจทย์การใช้งานขององค์กรในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี”

                 สำหรับ 5 ฟีเจอร์หลักบน  AssistMe ประกอบด้วย  1. Check in/ Out พนักงานสามารถกดเข้า-ออกงาน เมื่ออยู่ในรัศมีที่ทำงาน   2. Leave request พนักงานสามารถแจ้ง ลาป่วย ลากิจ ลาพักร้อน เพื่อขออนุมัติผ่านระบบ ได้แบบเรียลไทม์  3. Open ticket กรณีปฏิบัติงานในสำนักงานหากเกิดปัญหา สามารถแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กร เช่น แอร์เสีย ไฟดับ น้ำไม่ไหล ไปจนถึงปัญหาส่วนบุคคล เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที 4. FAQ สามารถเรียกดูข้อมูลบริษัทที่ยากต่อการจดจำหรือคำถามที่พบบ่อย ๆ เช่น รหัสไวไฟ เบอร์ติดต่อต่าง ๆ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เป็นต้น  และ 5. Power BI สำหรับฝ่ายบุคคล (HR) และผู้บริหาร (Manager) สามารถดู Performance และข้อมูลต่าง ๆ ของพนักงานผ่าน Microsoft Power BI โปรแกรมช่วยวิเคราะห์ สรุปผล และรวบรวมข้อมูล เช่น พนักงานมาทำงานกี่โมง ใช้เวลาในออฟฟิศกี่ชั่วโมง มาแสดงผลเพื่อเปิดโอกาสให้สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ประกอบการตัดสินใจต่าง ๆ และต่อยอดให้องค์กรขับเคลื่อนด้วย Data Driven อย่างเต็มรูปแบบได้อีกด้วย

                 ผู้บริหารอัลมอนด์ ดิจิทัล กรุ๊ป บอกว่า ระบบแชทบอทที่พัฒนาขึ้นนี้  สามารถใช้งานง่ายและสะดวก ทุกที่ทุกเวลา โดยเน้นการสร้างประสบการณ์การทำงานที่ดีให้กับทุก ๆ แผนกในองค์กร ตั้งแต่ระดับผู้บริหาร ผู้จัดการ พนักงาน แผนกบุคคล และแผนกไอที โดย AssistMe จะคอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้ทุกฝ่ายสามารถทำงานประสานกันได้อย่างง่ายดาย และสะดวกสบายยิ่งขึ้น

                 ทั้งนี้องค์กรที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อทดลองใช้งาน AssistMe ได้ฟรีจนถึงสิ้นปีนี้  ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์https://www.almond.group/?utm_source=newsletter&utm_medium=cpc&utm_campaign=AssitMe&utm_term=Chatbot&utm_content=textlink